ทีมงานวิชาการผู้ใกล้ชิดเคยกล่าวไว้ว่า ชีวิตของ ดร.อาทิตย์ ฯ เปรียบเสมือนวงโคจรของดวงตะวัน ในช่วงอรุณรุ่ง ดร.อาทิตย์ ฯ เติบโตในครอบครัวที่ตระหนักในความสำคัญอย่างยิ่งของการศึกษา จึงได้รับการปูพื้นฐานที่ดีที่สุดตั้งแต่การบ่มเพาะในครอบครัว การเข้าศึกษาในโรงเรียน มหาวิทยาลัย จนจบการศึกษาระดับปริญญาโททางด้านการต่างประเทศและการบริหารจนถึงปริญญาเอกทางรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด ณ โบลเดอร์ สหรัฐอเมริกา
ด้วยความเป็นผู้ใฝ่รู้ เปิดรับสิ่งใหม่และพร้อมรับความท้าทายใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เส้นทางการโคจรของตะวันในวงการวิชาชีพ จึงหลากหลาย กว้างขวาง ทอแสงสว่างสู่หลายวงการ ทั้งการพัฒนาชนบท พัฒนาเมือง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน การเมือง การปกครอง ครอบคลุมทั้งทางด้านการบริหารรัฐกิจ รัฐวิสาหกิจ การต่างประเทศ การสาธารณสุข การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการบริหารธุรกิจโรงงาน โรงพยาบาลและสถาบันการศึกษา
ในระยะแรกเริ่ม ดร.อาทิตย์ ฯ เริ่มจากการเป็นปลัดอำเภอเมืองนครนายก (พ.ศ. 2502) ย้ายมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอัตรากำลังและฝึกอบรม สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (พ.ศ. 2510) และเลื่อนเป็นหัวหน้ากองวิชาการ ก.พ. (พ.ศ.2515) ได้ชื่อว่าเป็นผู้วางระบบ พี.ซี. ให้กับราชการไทย รวมทั้งริเริ่มงานวางแผนกำลังคนของชาติ
ในระดับชาติ ดร.อาทิตย์ ฯ ก้าวไปไกลถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา เป็นผู้แก้ไขวิกฤตการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ.2535 จนนำไปสู่การทูลเกล้า ฯ เสนอแต่งตั้งนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อคลี่คลายบรรยากาศการเผชิญหน้าทางการเมืองที่รุนแรงด้วยหลัก "สันติธรรม"
ทางการเมือง ดร.อาทิตย์ ฯ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดฉะเชิงเทรา 4 สมัย (ปี พ.ศ. 2531, 2535 / 1, 2535 / 2 และ 2538 ) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตพญาไท จตุจักร ลาดพร้าว (ปี 2539) รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปี 2542) และระบบบัญชีรายชื่อ ปี 2544 รวมทั้งตำแหน่งสำคัญ ๆ ในคณะกรรมาธิการหลายคณะและในพรรคการเมืองอีกหลายตำแหน่ง
ดร.อาทิตย์ ฯ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ฯ ของ 3 กระทรวง ได้แก่ การะทรวงการต่างประเทศ (2533-4) กระทรวงสาธารณสุข (2536-8) กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม (2542-4) มีผลงานดีเด่นเป็นที่ยกย่องระดับชาติมากมายตัวอย่างเช่น การคลี่คลายปัญหาความสัมพันธ์ ไทย - ซาอุดิอาระเบีย ในยุคสงครามอ่าว การขยายการครอบคลุมหลักประกันสุขภาพแก่คนไทยทั่วราชอาณาจักร การจัดตั้งสถาบันพระบรมราชชนกผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท บนฐานของโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป สถาบันพระบรมราชชนนีเพื่อผลิตพยาบาลวิชาชีพ และสถาบันสิรินธรเพื่อผลิตนักวิชาการสาธารณสุข อีกทั้งริเริ่มให้มีการผลิตแพทย์ในมหาวิทยาลัยเอกชนเพื่อร่วมแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อกอบกู้ความอ่อนด้อยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เหล่านี้เป็นต้น นอกจากนี้ยังกอปร์ภารกิจนานัปการในรดับภูมิภาคและนานาชาติทั้งทางด้านการต่างประเทศและงานวิชาการของกระทรวงต่าง ๆ ที่เข้ารับตำแหน่งรวมทั้งได้ริเริ่มโครงการประสานงานทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี จนเป็นที่ยอมรับในชุมชนวิชาการนานาชาติอย่างกว้างขวาง
ทางด้านการบริหารรัฐวิสาหกิจ ดร.อาทิตย์ ฯ มีประสพการณ์ในตำแหน่งหัวหน้ากองบริหารทั่วไปของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (พ.ศ.2518) และตำแหน่งผู้ว่าการประปานครหลวง (พ.ศ.2527) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้พลิกฟื้นองค์กรจากการขาดทุนสะสมมา 18 ปี จำนวน 2,225 ล้านบาท โดยลดการขาดทุนจากปีละ 800 ล้านบาทเหลือ 320 ล้านบาทในปีแรก ในปีที่สองลดลงเหลือ 184 ล้านบาท และช่วยให้การประปานครหลวงมีกำไรในปีที่ 3
ทางด้านการธุรกิจเอกชน ดร. อาทิตย์ ฯ เป็นผู้ก่อตั้งโรงแรมวังธารา โรงงานอุตสาหกรรมไข่ผง เครือโรงพยาบาลพญาไท มหาวิทยาลัยรังสิต โรงเรียนนานาชาติดัลลิช ภูเก็ต และอยู่ในระหว่างการจัดตั้งโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต รวมทั้งการวางแผนจัดตั้งสาขาของวิทยาลัยนานาชาติดัลลิชขึ้นที่เกาะสมุย
ดร.อาทิตย์ ฯ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีก่อตั้งของมหาวิทยาลัยรังสิตในปี พ.ศ. 2528 และกลับมาดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนที่ 5 อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2544 ในยุคที่เรียกกันว่า "ตะวันรุ่ง" จวบจนถึงปัจจุบัน จากประสพการณ์หลากสาขาแบบรวบยอดของท่านดังกล่าวมาแล้ว ดร.อาทิตย์ ฯ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนากำลังคนเหนือสิ่งอื่นใด โดยถือว่า
: : คนเป็นหัวใจของการพัฒนาชาติบ้านเมือง
: : การสร้างคนที่มีคุณภาพคือการสร้างชาติ
: : การศึกษามิใช่ตัวตายอยู่กับหลักสูตร วิธีการสอน หนังสือตำราแบบดั้งเดิม การศึกษามีพลวัตที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี วิธีการประกอบธุรกิจ การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ในสังคม ตลอดจนวิถีชีวิตของผู้คนในสังคม
: : การศึกษามิได้มีจุดมุ่งหมายอยู่ที่การจัดการเรียนการสอนให้เด็กหรือนิสิตนักศึกษาสอบผ่านด้วยเกรดสูง มีประกาศนียบัตรหรือปริญญาบัตรเป็นเครื่องวัดความสำเร็จ การศึกษามีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์และสมดุลทั้งทางร่างกายจิตใจ มีสติปัญญา รู้จักคิด รู้จักไตร่ตรอง ทดลองปฏิบัติและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ รู้จักคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามอันเป็นรากเหง้าของตนเอง สนใจใฝ่คว้าเปิดโลกทรรศน์ให้กว้างไกลออกไปในทุกทิศทางและใส่ใจในการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต ด้วยวิธีการจัดการเรียนการสอนที่มีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง
|