มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดการเรียนการสอนรายวิชา RSU 171 วิถีสุขภาพดีมีสุข (Healthy Life-Style) มุ่งให้นักศึกษาได้เรียนรู้จักสมุนไพรไทย สรรพคุณต่างๆ การดูแลสุขภาพเบื้องต้นด้วยสมุนไพร และสามารถนำไปประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทย
ดร.นันทพงศ์ ขำทอง อาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้เปิดการเรียนการสอนรายวิชา RSU 171 วิถีสุขภาพดีมีสุข (Healthy Life-Style) ขึ้นเพื่อให้นักศึกษาจากหลากหลายคณะไม่ว่าจะเป็น แพทยศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ วิศวกรรมชีวการแพทย์ บริหารธุรกิจ ศิลปศาสตร์ การท่องเที่ยวและการบริการ นวัตกรรมดิจิทัลฯ สถาบันการบิน นวัตกรรมเกษตร และการแพทย์แผนตะวันออก ได้เรียนรู้และปฏิบัติจริงเกี่ยวกับการนำสมุนไพรไทยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ จนกระทั่งนำไปประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพเบื้องต้น อาหารสมุนไพร การออกกำลังกายสไตล์การแพทย์แผนตะวันออก ฯลฯ
“สำหรับวิชานี้หน่วยงานที่คิดพัฒนาปรับปรุงรายวิชาคือสถาบัน Gen.Ed. ซึ่งทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น ปกติวิชานี้ไม่มีการทดลอง แต่เทอมนี้เพิ่มการทดลองให้นักศึกษาทำ เพราะว่าอยากให้นักศึกษามีความสนใจมากขึ้น และจะได้ทำการทดลองจริงไม่ใช่เลคเชอร์ผ่านหน้าจอเพียงอย่างเดียว ซึ่งสิ่งที่เราให้ทำในวันนี้ก็คือนำความรู้เรื่องน้ำมันหอมระเหยที่เรียนในเลคเชอร์มาผสมทดลองจริงตามที่เรียนมา เพราะฉะนั้นเมื่อนักศึกษารู้สรรพคุณต่างๆ ของเอสเซ็นเชียล ออยล์ ในอนาคตเมื่อเขาเกิดปัญหาก็จะสามารถนำเอสเซ็นเชียล ออยล์ไปใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาที่เจอด้วยตัวเองได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ในภาคการศึกษานี้นักศึกษาจะได้เรียนเกี่ยวกับอโรมาเทอราพี หรือสุคนธบำบัด การใช้เอสแซลเชียล ออยล์ เพื่อบำบัดอาการต่างๆ โดยสรุป แต่ในคาบอื่นๆ นั้นจะมีอาจารย์จากคณะต่างๆ ที่มีความชำนาญในแต่ละเรื่องมาสอน ยกตัวอย่างเช่น อาหารเพื่อสุขภาพ ก็จะได้เรียนรู้ด้านอาหารพวกเมี่ยงคำ แกงดอกแค ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ตามการแพทย์แผนโบราณ รวมทั้งชี่กง โยคะ เป็นต้น ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนตลอดทั้งเทอม สำหรับบรรยากาศในการเรียนการสอนเด็กๆ ก็จะสนุกสนาน ได้มีแอคทิวีตี้ไม่น่าเบื่อ ซึ่งวิชานี้เปิดครั้งแรกในเทอมที่ผ่านมาและมีผลตอบรับที่ดี” ดร.นันทพงศ์ กล่าว
นายนิธิกร ผแดนนอก (จ้อบ) และนายกฤตนันท์ มาตังคะ (เอ็น) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยแพทยศาสตร์ กล่าวว่า วิชานี้สนุกดีครับ ได้เรียนเกี่ยวกับอโรมาเทอราพี ซึ่งได้ทำอะไรใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำ และสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ การเรียนแพทย์นั้นเครียดเราต้องเรียนวิชาอะไรที่คลายเครียดบ้าง ทำให้เรามีความรู้รอบตัวมากขึ้น ได้รู้จักสมุนไพรใหม่ๆ ด้วยครับ
นางสาวปรางค์วีพา กล้ากสิกรณ์ (อัน) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปศาสตร์ กล่าวว่า ได้เรียนเกี่ยวกับสรรพคุณสมุนไพรประจำบ้าน ช่วยในชีวิตประจำวัน โดยครั้งนี้ได้เรียนเกี่ยวกับน้ำมันหอมระเหย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันบ้าง อย่างเมื่อสัปดาห์ก่อนได้เรียนเกี่ยวกับการทำยาดมสมุนไพร เวลาเวียนหัวก็นำมาใช้ได้ค่ะ สำหรับวิชานี้มีความน่าสนใจที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องยาสมุนไพร อันเรียนศิลปศาสตร์ ก็จะได้มีความรู้รอบตัวติดไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ
นางสาวธนาการณ์ อินทองสุข (การณ์) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยแพทยศาสตร์ กล่าวว่า สำหรับวันนี้ที่มาเรียนเกี่ยวกับการทำน้ำมันหอมระเหย ได้ความรู้เกี่ยวกับพวกสมุนไพร สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะว่าสมุนไพรเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราถ้าเรามีความรู้ไว้ก็จะมีประโยชน์ในอนาคต อีกอย่างคือเรียนแพทย์สามารถเอามาประยุกต์เข้ากับวิชาชีพของเราได้ด้วยค่ะ ที่ผ่านมาในวิชานี้ได้เรียนเกี่ยวยาสมุนไพรที่ใช้ในการรักษา และนอกจากนี้จะมีเรียนเกี่ยวกับสุขภาพจิต ซึ่งมีความสำคัญ เพราะว่าในอาชีพหมอเป็นอาชีพที่กดดันถ้าเราได้รู้เกี่ยวกับสุขภาพจิตของตัวเองเราก็จะสามารถประเมินได้ว่า เราควรจะทำตัวอย่างไรในเวลาที่เราเครียด อาจารย์ก็จะมีวิธีการที่ช่วยให้ดีขึ้น และอย่างวิชาสมุนไพรนี้ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับวิชาชีพแพทย์ได้เหมือนกันค่ะ
นายต้นตระการ นิกรมิตร (ต้น) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 เทคนิคการแพทย์ กล่าวว่า วันนี้ได้เรียนทำการผสมหัวน้ำหอมครับ ได้รู้ว่าหัวน้ำหอมอะไรเอาไว้ใช้ทำอะไร และมีสรรพคุณอย่างไร อย่างเช่น โรสแมรี่ เอาไว้เพื่อให้มีกลิ่นผ่อนคลาย เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ครับ นอกจากนี้ที่เรียนมาจะเป็นพวกสุขภาพกายสุขภาพจิต เกี่ยวกับสุขภาพองค์รวม โดยเราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ในการปฏิบัติตนให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้นครับ
"