“ทุนกิจกรรมนอกหลักสูตรและสิ่งประดิษฐ์ เป็นการรวมตัวกันของนักศึกษาจากหลากหลายคณะ และจะเห็นว่านักศึกษาคณะที่เราคิดว่าคงไม่ได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดก็ทำให้ได้รู้จัก ได้ลองแลกเปลี่ยนความรู้จากคณะหรือสาขาต่าง ๆ ทำให้สามารถเพิ่มความรู้หรือทักษะการใช้ชีวิต การที่เรามีเพื่อนมาจากหลากหลายคณะทำให้เราได้เปิดโลกกว้างมากขึ้น...เพราะบางครั้งในชีวิตคนเราต้องได้เรียนรู้แบบหลากหลาย และข้อดีของทุนนี้คือ การได้รู้จักกับอาจารย์ รุ่นพี่ที่ดูแลทุน เนื่องจากนักศึกษาทุนทุกคนจะได้รับการซัพพอร์ต สนับสนุนในเรื่องต่าง ๆ และเปิดโอกาสให้ได้ดีไซน์กิจกรรม ลองเรียนรู้ และคอยแนะนำประคับประคองเพื่อให้การทำกิจกรรมของเราสนุกและได้รับประสบการณ์เต็มที่”
เปิดประสบการณ์การเป็นเด็กทุนกิจกรรมสร้างความเป็นผู้นำ
อากี้ - ณัฏฐนิชา สายสมุทร นักศึกษาทุนกิจกรรมนอกหลักสูตรและสิ่งประดิษฐ์ ชั้นปีที่ 3 สาขาเทคโนโลยีการประกอบอาหาร วิทยาลัยการท่องเที่ยว การบริการและการกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต เล่าว่า “สมัยเรียนประถม มัธยม ได้ลองทำกิจกรรมหลายอย่าง จนตนเองได้รับโอกาสเป็นประธานนักเรียนตอนมัธยมปลาย ทำให้เริ่มรู้สึกสนุกไปกับหน้าที่ที่ได้รับ เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยและได้รับโอกาสให้เป็นประธานชมรม ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งใหม่ที่คงจะหาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตของการเรียน เลยตัดสินใจที่จะลองอีกครั้ง เพราะอากี้คิดว่าการทำงานในมหาวิทยาลัยน่าจะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากตอน ม.ปลายค่ะ”


ประสบการณ์ 3 ปี ในรั้วมหาวิทยาลัย กับการเป็นเด็กิจกรรม
ถ้าให้พูดถึงประสบการณ์ตลอด 3 ปี อากี้อยากบอกต่อประสบการณ์ดี ๆ ที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยรังสิตว่าการเป็นเด็กกิจกรรมแบบเต็มตัวสุด ๆ เมื่อพูดถึงประสบการณ์แน่นอนว่าคงจะหนีไม่พ้นประสบการณ์การทำกิจกรรมค่ะ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในชมรมได้มีโอกาสออกค่ายเยอะมาก และลองทำค่ายครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่ามันดี มันสุดยอดแล้ว แต่นั่นก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่าเรามีการปรับปรุงการทำงานมาเรื่อย ๆ จนเป็นเราถึงทุกวันนี้ ส่วนกิจกรรมที่ประทับใจที่สุดคงเป็นค่ายครูอาสาครั้งที่ 6 เพราะเป็นค่ายสุดท้ายก่อนจะมาเจอโควิด นับเป็นโอกาสที่ได้เจอเพื่อนและพี่ต่างคณะ ได้สร้างมิตรภาพระหว่างกัน ได้แต่หวังว่าคงจะมีโอกาสได้ไปค่ายอีกคงจะดี ส่วนงานกิจกรรมอื่นในมหาลัยได้ไปเป็น Staff ซะส่วนใหญ่ ได้อะไรใหม่ ๆ หลังทำงานจบ แต่ที่น่าจดจำก็คงการได้เป็น Staff งานรับปริญญาค่ะ เราได้มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จของพี่บัณฑิตที่จะออกไปทำงานหลังจากเรียนกันมานาน จริงๆ วันนั้นมองไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ การที่ได้เจอใครหลาย ๆ คนที่อาจจะห่างหายไปในการใช้ชีวิตได้กลับมาเจอกัน มันทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าวันนั้นมันอบอุ่นมากจริง ๆ ค่ะ”


เปิดโอกาสการให้ตนเองได้ลอง
“กำไรชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะคว้าโอกาสมาเป็นกำไรชีวิตได้มากน้อยเพียงใด อากี้บอกกับเราว่าตนเองถือเป็นศึกษาคนหนึ่งที่ได้ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย เล่าว่า “ตนเองได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ที่สำคัญ แต่ถ้าว่าอีกความรู้สึกมันคือการกดดันแบบเล็ก ๆ ว่าเราจะสามารถทำมันได้ดีไหม แต่สุดท้ายคงต้องขอบคุณที่พวกเขามอบโอกาสพิเศษแบบนี้ให้เราได้ลองทำ เราก็เลยต้องพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด โดยที่ไม่ต้องมานึกเสียใจที่หลัง แบบที่ใครหลาย ๆ คนมักพูดว่า รู้”


อะไรไม่เสียดายเท่ารู้งี้ ค่ะ”
อากี้เล่าถึงการได้ลองทำกิจกรรมอีกว่า “กำไรชีวิตในช่วงที่เรียนของอากี้คือ การได้ลองทำกิจกรรมและงานแข่งขันที่อยากลอง ทั้งภายในและภายนอกมหาลัย ทุกอย่างที่เราได้ลองทำมันคือการเปิดทักษะสกิลใหม่ ๆเสมอ ถึงแม้อาจจะเป็นสิ่งเดิมที่เราได้ลองทำไปแล้ว แต่มันก็เป็นการอัพเลเวลตัวเองขึ้นไปอีก เป็นเหมือนการเกลาชีวิตตัวเองให้พร้อมก่อนจะได้ออกไปเจอโลกในอีกแบบที่เรายังไม่ได้ลองไปสัมผัสมันแบบจริงจัง ได้รู้จักการเข้าสังคม ได้ลองทำงานกับคนมากมาย และการเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน หลายสิ่งหลายอย่างมันไม่สามารถหาได้จากในห้องเรียนจริง ๆ พอได้มีโอกาสก็ถือว่าเป็นกำไรว่าเราได้จำลองการทำงานกับคนหมู่มาก และอีกหลายโอกาสที่เข้ามา บางครั้งก็ไม่สามารถหาโอกาสนั้นในช่วงวัยทำงานได้อีกค่ะ”
แน่นอนว่าการทำกิจกรรมต่าง ๆ ต้องมีการลงแรงกาย แรงใจและเวลาพอสมควร การจะทำทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์ โดยไม่ส่งผลต่อการเรียนได้นั้นคงต้องมีการบริหารจัดการเป็นอย่างดี สำหรับอากี้เองแล้วได้บอกกับเราว่า “จริง ๆ ถามว่าทุกวันนี้มันสมบูรณ์แบบไหม อากี้ไม่อยากให้ใช้คำนี้ เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรที่สมบูรณ์แบบทุก ๆ อย่าง มักมีจุดอ่อนเสมอ แค่เราจะต้องมองมันให้เห็น และปรับปรุงมันหรือพัฒนามันต่อไปเรื่อยๆ สำหรับอากี้แค่เคารพในสิทธิของกันและกัน มันจะทำให้คนที่เราทำงานด้วยไม่ได้รู้สึกกดดันมากจนเกินไป เพราะว่าการทำงานในสถานการณ์ที่กดดันนั้นงานไม่ได้ออกมาดีแน่ ๆ คงไม่มีใครชอบที่จะตกอยู่ในสถานการณ์นั้น และเราต้องมองให้ออก และแบ่งงานคนให้เป็นว่าถ้าคนนั้นถนัดสายงานไหนก็ควรให้ทำงานงานนั้น เด็กทุนกิจกรรมนอกหลักสูตรและสิ่งประดิษฐ์มีคนที่มีความสามารถหลากหลายมารวมกัน และคอยซัพพอร์ตกันในแต่ละด้านเสมอ เพราะฉะนั้นการทำงานที่จะออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ในตอนนั้นคือการแบ่งงาน และบริหารคนให้เป็นค่ะ”
"