ใกล้หมดช่วงฝึกงานกันแล้ว หลังจากน้องๆ ชั้นปีที่สามและปีที่สี่ได้ออกไปเปิดประสบการณ์การทำงานจริงกับคนทำงานจริง สถานที่จริง ในรายวิชาการฝึกงานวิชาชีพ (Professional Internship) ENG 492 ซึ่งเป็นรายวิชาที่นักศึกษาทุกคนในสาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตต้องลงทะเบียนเรียนกันทุกคน วันนี้เรามีหนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวเป็นตัวแทนมาถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างการฝึกงานให้ฟังกัน

ประสบการณ์แบบวินาทีต่อวินาที
จากการฝึกงานสายข่าวที่ ไทยพีบีเอส

นางสาวศิณีนาจ บุญเกรียงชัย หรือ มุก นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบันเป็นนักศึกษาฝึกงานฝ่ายโต๊ะข่าวบันเทิง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าว่า “ตอนนี้กำลังฝึกงานค่ะ เป็นวิชาฝึกงานช่วงซัมเมอร์ ประมาณ 2 เดือนค่ะ ซึ่งอีกไม่กี่อาทิตย์ก็ใกล้จะฝึกเสร็จเรียบร้อยค่ะ ช่วงต้องเลือกสถานที่ฝึกงาน มุกก็มองไว้หลายที่ค่ะ หลายคนรวมทั้งตัวมุกเองด้วยก็จะมองว่าเรียนเอกภาษา คงหนีไม่พ้นต้องฝึกงานที่สนามบิน หรือโรงแรม แต่มุกก็หาข้อมูลค่ะ มีรุ่นพี่หลายๆ คนก็ฝึกงานสายข่าว และก็ได้ทำงานที่หลากหลาย สุดท้ายมุกเลือกที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพราะอยากลองออกจาก Comfort Zone อยากลองเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ปกติแล้วมุกไม่ชอบเจอคนเยอะๆ หรือต้องทำอะไรที่รีบๆ ดังนั้น จึงอยากลองท้าทายตัวเอง เพื่อจะได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เริ่มฝึกงานจนวันนี้รู้สึกไม่ผิดหวังเลยค่ะ เพราะได้ลงมือทำงาน ได้ร่วมงานกับทีมพี่ๆ เสมือนเป็นบุคลากรคนหนึ่ง ทุกสิ่งอย่างเป็นประสบการณ์ใหม่ มุกไม่เคยเจอ ไม่แม้แต่จะนึกภาพออกในตอนแรกด้วยซ้ำว่า คนข่าว เขาทำงานกันอย่างไร แต่พี่ๆ ทุกคนก็ใจดีและเป็นกันเอง สอนงานให้ตลอด มุกจึงได้สัมผัสและลองทำหลายๆ อย่าง ตั้งแต่การออกไปหาแหล่งข่าว การสัมภาษณ์ การเขียนสคริปต์ การแปลข่าวต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้เป็นโปรดิวเซอร์รายการสด เป็นผู้กำกับเวที พี่ๆ ฝึกให้เรียนรู้ขั้นตอนและยังได้ฝึกการคิดแบบผู้สื่อข่าวอีกด้วย ก่อนที่จะเริ่มฝึกงานตอนนั้นถามว่าคาดหวังอะไร มุกก็ขอได้ทำงานสายข่าวต่างประเทศก็พอ แต่เมื่อได้มาฝึกจริงๆ ก็ทำหลายอย่าง และความรู้สึกของมุกมันเหมือนเราได้ออกจาก Comfort Zone ได้ลองก้าวออกมา เจออะไรใหม่ๆ ได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับคน กับงาน ไม่เคยทำมาก่อนเลยค่ะ แต่มันรู้สึกสนุก ท้าทายตลอดเวลา เช่น เมื่อต้องรายงานสถานการณ์ข่าวฉุกละหุก เราจะสนใจเรื่องอื่นไม่ได้เลย ต้องโฟกัสอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้า แบบวินาทีต่อวินาที แข่งกับเวลาสุดๆ ค่ะ มุกเคยไปทำข่าวอาการป่วยของดาราชายท่านหนึ่งซึ่งกำลังได้รับความสนใจ แล้วต้องออกอากาศข่าวให้ทันข่าวเย็น ทำให้เราต้องวางแผนหากทำข่าวไม่ทันต้องทำอย่างไร และการต้องสแตนบายข่าวกรณีฉุกเฉินข่าวนั้นต้องเป็นข่าวอะไร การเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ ในตอนทำข่าวหากเกิดเหตุการณ์ขัดข้องต้องทำอย่างไร พี่ๆ ก็จะช่วยสอนช่วยติว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ทำให้รู้เลยว่าต้องใช้ไหวพริบและสมาธิเป็นอย่างมาก ที่สำคัญการสื่อสารจะต้องถูกต้อง ไม่ผิดพลาด ช่วงแรกๆ สิ่งที่มุกต้องปรับตัวคือเรื่องของการรับฟังความผิดพลาดของตัวเราเอง เพราะเราเป็นมือใหม่ ทำงานพลาดเยอะมาก แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ แก้ไข พัฒนาตนเอง การเรียนในมหาลัยเวลาเราทำงานอะไร เราจะมีอาจารย์คอยตรวจ คอยบอก ว่ามันควรจะไปในทิศทางไหน แต่พอออกมาทำงานจริงๆ เราไม่มีอาจารย์บอกแล้ว เราต้องทำทุกๆ อย่างด้วยตัวเอง โดยผลลัพธ์ที่มันออกมานั้นมันส่งผลกระทบต่อทุกๆ คนที่เราทำงานด้วย จึงทำให้เราต้องระวังและรอบคอบมากๆ

หากถามว่าจากการฝึกงานในครั้งนี้ประทับใจอะไรในองค์กรที่เราเลือก ตอบได้ไม่ลังเลเลยค่ะ ว่าที่นี่เจ๋งมากๆ ด้วยความที่ไทยพีบีเอส เป็นสื่อสาธารณะเพื่อประชาชน ทำให้มีกระบวนการอะไรหลายๆ อย่างที่คิดมาเพื่อประชาชน หรือแม้แต่พนักงานเอง อย่างเช่น ฝ่ายบันเทิงที่มุกทำอยู่ก็ไม่ได้นำเสนอแค่ข่าวบันเทิงเท่านั้น ยังนำเสนอศิลปะต่างๆ ที่ให้ความรู้กับประชาชนด้วย การทำข่าวแต่ละข่าวก็ต้องคิดว่าข่าวนี้มีประโยชน์อะไร แล้วให้ข้อคิดอย่างไรกับผู้ชม หรือแม้แต่การที่มีเนอสเซอรี่ในบริษัท ที่ให้พนักงานนำลูกมาเรียนได้โดยที่พ่อแม่นั้นยังสามารถทำงานไปด้วยได้ มุกขอคอนเฟริ์มเลยว่า ฝึกงานที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นั้นได้งาน (ประสบการณ์) ค่ะ

ฝึกงานภาคสนามการสื่อสารและทักษะด้านอารมณ์สำคัญ
กับ Ground Service ที่ Air France – KLM

นายจินซู โซ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นักศึกษาฝึกงานตำแหน่ง Ground Service สายการบิน Air France – KLM กล่าวว่า ผมฝึกงานใกล้ครบกำหนดเวลาแล้วครับ จริงๆ ระยะเวลา 3 เดือนนั้นสั้นมากๆ เพราะเวลาเดินอย่างรวดเร็ว สำหรับผมเป็นนักศึกษาเอกภาษาอังกฤษจึงอยากหาสถานที่ฝึกงานที่จะได้ใช้ภาษาจริงๆ แม้ว่าผมจะสามารถพูดภาษาเกาหลีได้ก็ตาม แต่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ผมเริ่มเรียนและอยากท้าทายความสามารถของตนเอง

“หน้าที่ของผมจะอยู่ประจำที่เคาน์เตอร์ ดูแลในส่วนของการ Check-in และต้อนรับผู้โดยสาร พร้อมยังคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสายการบิน ตารางการบิน และรับรองที่ Boarding Gate ด้วยครับ ผมได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังได้เพื่อนๆ จากสถาบันการศึกษาอื่น ที่เป็นชาวต่างชาติด้วย ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น กีนี ทำให้ต้องสื่อสารตลอดช่วงเวลาการฝึกงาน ผมรู้สึกสนุกกับงานเพราะในแต่ละวันจะได้เจอกับอะไรใหม่ๆ ให้เรียนรู้ตลอดเวลา ทำให้การฝึกงานไม่น่าเบื่อเลยครับ หากไม่รู้หรือสงสัยอะไร พี่ๆ สต้าฟก็คอยแนะนำเสมอ เพราะประสบการณ์จะสอนให้เราแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอยู่ครั้งหนึ่งระหว่างรอ Check-in ครอบครัวชาวฝรั่งเศสครอบครัวหนึ่ง มีเด็กเล็กมาด้วย และการ Check-in ค่อนข้างต้องใช้เวลาจึงทำให้น้องร้องไห้เสียงดังรบกวนผู้โดยสาร ผมมีลูกอมอยู่เม็ดหนึ่งจึงได้หยิบให้น้องไปถือเล่น จนน้องยอมคุยด้วย และร้องหยุดร้องครับ สองเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา ผมได้ทำงานเสมือนเป็นบุคลากรคนหนึ่ง ได้ใช้ชีวิตการทำงานจริงๆ ต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก เรื่องเวลา บุคลิกภาพ การเข้าสังคม และต้องมีไหวพริบในการทำงานเป็นอย่างมากที่สุด ช่วงแรกผมต้องปรับตัวเรื่องการตื่นนอน เราไม่สามารถไปสายเหมือนตอนไปเรียนได้แม้แต่น้อย ต้องให้ความสำคัญกับงานเป็นอันดับแรก การปรับตัวที่สำคัญไม่แพ้กันอีกเรื่องนั้นคือ สังคมของการทำงาน เราต้องเจอผู้คนมากมาย ต้องทำงานกับคนอื่นมากมายแต่ละคนก็จะมีอุปนิสัย บุคลิก สไตล์ที่แตกต่างกันและต้องอดทนกับทุกสถานการณ์ ทำงานภายใต้ความกดดันให้ได้ อย่างที่บอกไว้ตอนแรกครับ ผมโชคดีที่พี่ๆ สต้าฟใจดี และให้โอกาสนักศึกษาฝึกงาน ผมได้รับความเอาใจใส่ และได้ความรู้ แม้พี่ๆ เขาจะยุ่งอยู่กับงานหรือไม่ เมื่อมีคำถามหรือมีเหตุให้ต้องสอนน้องๆ พวกพี่เขาก็เต็มใจเป็นอย่างมาก ทำให้ประทับใจมากๆ ครับ”

ในการทำงานบุคลิกเราจะต้องดูเป็นผู้ใหญ่ ต้องสามารถทำงานภายใต้ภาวะความกดดันกับทุกสถานการณ์ ไม่สามารถทำตัวงอแงเหมือนเป็นเด็กๆ ได้ หากให้แนะนำเรื่องการเลือกสถานที่ฝึกงาน อันดับแรกจะต้องดูความเหมาะสมในทุกๆ เรื่อง ใช่ด้านที่ตัวเองถนัดหรือเปล่า การเดินทางจะสามารถควบคุมเรื่องเวลาได้หรือไม่ และเราพร้อมที่จะเปิดใจอย่างไรบ้าง เมื่อไปฝึกงานจริงๆ แล้วก็ต้องน้อมรับคำแนะนำ คำตักเตือนจากพี่ที่เขาทำงานมาก่อน เป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา หากใครสนใจฝึกงานสายบริการ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานบริการ และยังได้ภาษาด้วย ก็อยากให้ Air France –KLM เป็นหนึ่งในที่ฝึกงานได้นะครับ