ในยุคที่ทุกอย่างถูกย่อลงให้เหลืออยู่แค่ในจอโทรศัพท์มือถือ ผู้คนให้ค่ากับงานศิลปะน้อยลง แต่ ฤกษ์ชัย กอโชคชัย หรือ ทีชัย ศิษย์เก่าสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ยังคงมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมจีนที่มีมายาวนาน ตวัดวาดลายเส้นเป็นตัวอักษรที่งดงามผ่านปลายพู่กันของเขา
“ผมเรียนสาขาวิชาภาษาจีนครับ ระหว่างที่เรียนก็ทำงานกิจกรรมคณะ และมหาวิทยาลัยมากมายครับ นอกจากนี้ก็ยังทำงานจิตอาสาด้วย ผมได้ประสบการณ์จากการทำกิจกรรมเยอะครับ อันนี้กล้ายืนยันเลยครับ กิจกรรมหล่อหลวมให้ผมรักที่จะอยู่กับจิตอาสา และตัดสินใจเลือกทำงานด้านกิจการนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยรังสิต หลังจากเรียนจบใหม่ๆ ตอนนั้นผมก็ไปช่วยงานที่บ้านครับ แต่ก็รู้สึกว่าอยากพัฒนาตัวเอง อยากใช้ความรู้ที่เรียนมา และอยากแชร์ประสบการณ์การทำกิจกรรมให้กับรุ่นน้อง จังหวะที่ทางมหาวิทยาลัยก็กำลังรับสมัครเจ้าหน้าที่ฝายกิจการนักศึกษา ผมก็ไม่ลังเลเลยครับ”
ความภูมิใจกับการเขียนพู่กันจีน
“พื้นเพเดิมที่บ้านเป็นคนจีนครับ จึงมีความเกี่ยวข้องกับภาษาจีน แต่จะเป็นจีนฮกเกี้ยน หรือแต้จิ๋ว เป็นภาษาท้องถิ่น เขาจะมีการเขียนพู่กันจีนตามศาลเจ้า ตามบ้านต่างๆ เวลามีงานมงคลหรืองานประจำปี แต่ก่อนอากงจะไปจ้างอาแปะที่เยาวราชเพื่อเขียนพู่กันจีนให้ ผมก็ตามไปดู และก็ซึมซับมาเรื่อยๆ จนเรียนมาประมาณปี 3 ที่คณะเปิดวิชาเขียนพู่กันจีน ผมก็ลงเรียนด้วยความสนใจและความชอบจากทุนเดิม อาจารย์นิธิวุฒิ ศรีบุญชัยชูสกุล เป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะพู่กันจีน ท่านเก่งครับ ก็จะสอนเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆ ผมก็จดจำและนำมาปรับใช้ หลังจากที่ได้เขียนพู่กันบ่อยขึ้น อากงของผมก็ชวนให้มาช่วยเขียนพู่กันจีนในงานของศาลเจ้าต่างๆ ทั้งแถวบ้านและใกล้เคียง แทบจะทุกครั้งที่เขียนเสร็จผมก็จะส่งรูปกลับไปให้อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยดูเสมอครับ ท่านก็จะคอยแนะนำว่าต้องแบบนี้นะ แบบนั้นนะ เส้นนี้ยังไม่ได้องศา น้ำหนักยังต้องเพิ่มต้องลดนะ ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้ทำตรงนี้ครับ หลายคนอาจสงสัยว่าการเขียนพู่กันจีนมันน่าภูมิใจตรงไหน ผมบอกได้เลยครับ ว่ามันคือความภูมิใจ การเขียนพู่กันเรียกว่าเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมด้านภาษาและศิลปะของจีนครับ คนจีนจะถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านตัวหนังสือ และในขณะที่เขียนพู่กันนั้นก็เป็นการฝึกสมาธิอีกด้วยครับ ปกติแล้วผมก็เป็นคนร่าเริง ตลก สนุกสนานครับ จะไม่ค่อยอยู่นิ่ง แต่ในเวลาที่เขียนพู่กันผมก็ต้องนิ่ง จะดูเหมือนเป็นคนละคนไปเลยครับ การเขียนพู่กันจีนต้องมั่นใจ หนักแน่น แม่นยำ ไม่สามารถผิดได้ อุปกรณ์ที่ผมใช้ก็จะเป็นชุดธรรมดาครับ เป็นน้ำหมึกแบบสำเร็จรูป พู่กัน และก็กระดาษครับ หากเป็นสมัยก่อนก็จะต้องมีจานฝนหมึก น้ำหมึกแบบผง ก็จะขั้นตอนมากขึ้นอีกครับ ปัจจุบันจานฝนหมึกก็ถูกนำมาเป็นของที่ระลึก ของตั้งโชว์เพื่อความสวยงาม หมึกแท่งก็เปลี่ยนเป็นหมึกสำเร็จรูปครับ”
นอกจากนั้น ทีชัยยังเป็นครูอาสา สอนเด็กๆ เกี่ยวกับการเขียนพู่กันจีนอีกด้วย ด้วยความรักในงานจิตอาสาที่ถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่สมัยเรียน เพื่อที่เขาจะได้นำความรู้ ความสามารถที่มี ไปถ่ายทอดให้กับเยาวชน คนรุ่นใหม่ ให้เห็นถึงความสำคัญในการเขียนพู่กันจีน
“เด็กๆ สนุกครับ พอไปสอนแล้วก็อยากให้เรากลับไปอีก ด้วยความเป็นเด็กเขาเลยรู้สึกว่ามันแปลกใหม่ ไม่ได้ยากเกินไป และอยากจะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เขามองว่าการเขียนพู่กันจีนเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ก่อนกลับเด็กๆ ก็ยังขอพู่กันกลับเอาไปเขียนที่บ้านอีกด้วย ซึ่งสำหรับใครที่สนใจอยากเริ่มเขียนพู่กันจีน ผมก็แนะนำอุปกรณ์สำคัญเบื้องต้นง่ายๆ ก็คือ พู่กัน หมึก และกระดาษ การเลือกพู่กันเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ พู่กันจะต้องไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป ถ้าหากขนอ่อนมากจะทำให้ตัวอักษรมีเส้นหนา แต่หากพู่กันแข็งมากเกินไป เส้นก็จะกระด้าง ทำให้ตัวอักษรดูแข็งและไม่สวยงาม ส่วนน้ำหมึกชนิดน้ำก็สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ตามร้านเครื่องเขียน การหัดเขียนในเบื้องต้นสามารถหาความรู้ ตัวอย่างได้จากอินเทอร์เน็ต หรือหากใครต้องการปรึกษาผมก็ยินดีเผยแผ่ความรู้นี้แบบไม่มีกั๊กครับ”
ภาษาจีนยังคงจำเป็น
เนื่องจากประเทศจีนนั้นถือเป็นประเทศที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจโลก ภาษาจีนจึงยังคงจำเป็นและสำคัญ เป็นอีกหนึ่งภาษาที่เราควรเรียนรู้ และยังคงเป็นภาษาที่น่าอนุรักษ์ไว้
“ผมได้มีโอกาสไปดูงานที่กวางโจว เซินเจิ้น อาจารย์ก็ได้พาไปดูธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเคสมือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ประเทศไทยได้นำเข้ามาจากประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ การสื่อสารทางธุรกิจ หรือการเป็นล่ามภาษาจีน จึงเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง และในอนาคตก็บอกได้เลยว่าคนจีนก็จะเข้ามาประเทศไทยมากยิ่งขึ้น เราจึงควรให้ความสนใจและเรียนรู้ภาษาจีนไว้ครับ”
"