ช่วงนี้หากใครได้ชมรายการ The Voice Thailand 2018 (Season 7) จะได้ชมพลังเสียงกระหึ่ม กึกก้อง ตั้งแต่ เธอเลือกโชว์ความสามารถโดยนำบทเพลง “IL dolce suono [Diva Dance]" จากภาพยนตร์เรื่อง The Fifth Element มาร้องในรอบ Blind Audition และเพลง “อัวกอร์” ในรอบ Knock Out ภายใต้ทีมของ โค้ชป็อป-ปองกูล เธอคนนี้ชื่อว่า ลูกปลา-อารียา โรจนดิษฐ์ ปัจจุบันเธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาดุริยางคศาสตร์ เอกการแสดงขับร้อง (Voice Performance) วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต
ตามมาทำความรู้จักลูกปลากันหน่อย...
ลูกปลาเป็นเด็กกรุงเทพฯ เรียนจบจากวิทยาลัยนาฏศิลปศาลายา (สาขาคีตศิลป์สากล) โดยมีความฝันในวัยเด็กว่า “อยากเป็นนักบินอวกาศค่ะ อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ โตขึ้นมาอีกหน่อยอยากเป็นจิตรกร” แต่ไม่เคยคิดอยากเป็นนักร้องเลย แค่ชอบร้องคาราโอเกะอยู่บ้านตลอดเวลาแค่นั้น พอเริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาครูเห็นลูกปลาออกไปร้องเพลงชาติ (คงเป็นเพราะเสียงเพราะจากเพลงนี้) คุณครูเลยส่งประกวดร้องเพลงลูกทุ่งตามโรงเรียนละแวกนั้น จนลืมเรื่องความฝันที่อยากเป็นนักบินอวกาศและอื่นๆอีกเลย จากนั้นลูกปลาขอต่อยอดความฝันที่เธอชอบต่อด้านดนตรีไปเลย และตั้งใจอยากเรียนรู้ให้ลึกและเรียนให้สุด รวมถึงอยากพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าสิ่งที่ตัวเองบอกว่าชอบ แท้จริงแล้วชอบจริงหรือแค่อุปาทาน และถ้าชอบชอบมากแค่ไหนกันแน่
ด้วยแรงบันดาลใจให้มาเส้นทางสายด้านดนตรีลูกปลาเล่าว่า “ลูกปลาจบมัธยมจากวิทยาลัยนาฏศิลปสาขาคีตศิลป์สากล (Voice) ที่เลือกสอบเข้าเอกนี้ก็ไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร เข้าๆไปก่อนเพราะคนสมัครน้อย พอเข้ามาก็เริ่มชอบอะไรบางอย่างในนั้น บวกกับลูกปลาเป็นคนที่ชอบดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นมาก ตอนนั้นลูกปลาดูเรื่อง Nodame Cantabile ที่เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิค คือเรียกว่าชอบมากก ดูซ้ำแบบนับไม่ถ้วน หลังจากนั้นมาก็ชอบอย่างเป็นทางการ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของลูกปลาประกอบกับปัจจัยหลายประการที่ทำให้ตัดสินใจเดินทางนี้จริงๆ อนาคตและความใฝ่ฝันของลูกปลา คือ ความสุขที่ได้ร้องเพลง และคิดว่าจะร้องเพลงต่อไปเรื่อยๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง พร้อมกับการมีร้านเบอเกอรี่น่ารักๆ สักร้านหากมีโอกาส ลูกปลากล่าว
สำหรับสาขาดุริยางคศาสตร์ เอกการแสดงขับร้อง (Voice Performance) เป็นสาขาที่ลูกปลาเลือกเรียนที่วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต ด้วยความที่เธอขอบอกตรงๆ ว่า “ชอบค่ะ” รู้สึกว่าอาจารย์ทุกคนในคณะที่มีโอกาสได้เข้ามาเจอ ได้เข้ามารู้จักมีความเป็นกันเองมาก พร้อมที่จะรับฟังเราอยู่เสมอ แม้คณะเราคนไม่เยอะมาก ทำให้เราเจอหน้าเพื่อนๆกันเกือบทุกวัน เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมากค่ะ ที่นี่วิทยาลัยดนตรีแห่งนี้ลูกปลาคิดว่าเป็นที่ที่สอนประสบการณ์ ให้นักศึกษาทุกคนได้ฝึกทำงานระหว่างที่เรียนไปด้วย หลายคนอาจมองว่าจบดนตรีมาทำงานอะไร? หากได้ลองมาเรียนที่นี่จะหมดข้อสงสัยเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
พอได้เข้ามาเรียนแล้ว รู้สึกชอบมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะวิชา Private ค่ะ (วิชาเครื่องมือของตัวเอง) อาจารย์ที่มาสอน Private เหมือนผู้ปกครองคนที่สองของเราเลยค่ะ เราสามารถที่จะปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ลูกปลาได้เรียนกับ อาจารย์กิต-กิตตินันท์ ชินสำราญ รองแชมป์รายการ The Voice Thailand เสียงจริง ตัวจริง ซีซั่น 2 ส่วนความสามารถของ ลูกปลานั้น ได้ผ่านเวทีครั้งแรกที่เวที KPN Award 23 ในปี 2014 ซึ่งได้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย จากนั้นมาแข่งรายการ KPN Award 25 : The Battle Returns ในปี 2016 นอกจากรายการ KPN Award แล้ว ลูกปลายังได้โชว์ความสามารถพลังเสียงด้านการร้องเพลงในอีกหลายๆ เวทีการประกวดร้องเพลง อาทิ Stage Fighter 2017 กับเพื่อนร่วมทีม และทีมของเธอได้แชมป์ต่อเนื่องถึง 3 สมัยในรายการดังกล่าว
ความสามารถทางด้านการร้องเพลงของลูกปลา ไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความมุ่งมั่นในใจเป็นสิ่งแรก จากนั้นการคิดริเริ่มที่จะหาความรู้ ประสบการณ์ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดไป ผนวกกับการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คุณภาพเสียงของลูกปลาพัฒนาดียิ่งขึ้น อีกประการหนึ่งคือ การรับฟัง ความคิดเห็นจาก คณาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งศิลปินอาชีพที่ลูกปลาได้มีโอกาสรับกลยุทธ์ เทคนิคต่างๆ มา เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตัวเอง สำหรับลูกปลาเองแล้ว หน้าตา รูปร่าง ไม่เคยเป็นอุปสรรค์ใดๆ การได้รับโอกาสในการแสดงความสามารถทั้งเวทีเล็กๆ กิจกรรมในและนอกมหาวิทยาลัย รวมถึงงานแสดงใหญ่ๆ ทำให้เป็นที่ยอมรับว่าเธอเป็นเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่มีน้ำเสียงที่ทรงพลังจริงๆ
“ความฝันมันเหมือนกับการซื้อของชิ้นใหญ่อะไรสักอย่างหนึ่ง บางทีถ้าเราซื้อไปแล้วอีกสองวันมาดูเราอาจจะบอกว่า เราซื้อมาทำไม? ก็ได้ ลูกปลาเชื่อว่าคนเราสามารถเปลี่ยนความฝันได้ตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับว่าความฝันอันไหนเหมาะกับเรา และมันจะอยู่กับเราแล้วเราจะรักมันไปตลอดจริงไหม?
เอาเป็นว่า...ถ้าฝันอะไรขอให้ลงมือทำก่อน ไม่รีบร้อน และเราก็ต้องมั่นใจระดับหนึ่งว่านี่คือความฝันที่สุดในชีวิตของเราจริงๆ”
"