ประสบการณ์ชีวิตของเราทุกคนนั้น ต่างมีอะไรแอบแฝงอยู่มากมาย บางครั้งประสบการณ์ทำให้เราได้พบเจอสิ่งใหม่ บางครั้งประสบการณ์เป็นคำตอบของการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ว่าเราควรทำสิ่งใดต่อไป หรือควรเปลี่ยนแปลงสิ่งใด บางคราประสบการณ์จากการทำสิ่งอื่นมามากมาย ก็ทำให้เราพบกับประสบการณ์ใหม่ขึ้นมาได้ อีกหนึ่งบุคคลในวันนี้ นายวิคเตอร์ มีชัย สีหราช ศิษย์เก่าสาขาวิชานิเทศศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ประสบการณ์ชีวิตของเขาสร้างการเรียนรู้และความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
“ถ้าเริ่มพูดถึงประสบการณ์เรียนและกิจกรรมตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความประทับใจ ที่นี่ให้โอกาสผมได้แสดงความเป็นตัวของตัวเอง ได้แสดงความสามารถให้ผมได้แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ต่างๆ ให้กับรุ่นน้อง ให้กับเพื่อนๆ อันนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก ในช่วงระหว่างชั้นปีที่ 2 และ 3 ประสบการณ์ใหม่ๆ โอกาสต่างๆ เริ่มเข้ามา ผมได้รับโอกาสจากรุ่นพี่ที่ชวนให้เข้าชมรมสอนเต้น ชมรมนี้ทำให้ผมเห็นว่า ม.รังสิต เปิดโอกาสให้กับนักศึกษา จึงตัดสินใจสร้างชมรมเต้นขึ้นมา จากนั้นตอนเรียนชั้นปีที่ 4 เรียกได้ว่าเป็นช่วง Highlight ของชีวิตวัยนักศึกษาเลยครับ ผมได้รับมอบหมายเป็นพิธีการในการแข่งขันกีฬาระดับมหาวิทยาลัย The Sun Game และยังได้มีโอกาสร่วมแข่งขัน Smart Young Leader ซึ่งเป็นโครงการของ ทปอ. และยังโอกาสติด 1 ใน 2 คนที่ได้ไปแข่งกล่าวสุนทรพจน์ที่อินโดนีเซีย”
ประสบการณ์การถูกคัดเลือกเป็นนักศึกษารางวัลพระราชทาน
ความกังวล ไม่มั่นใจในสิ่งที่ตนเองทำได้ มักเป็นแรงผลักดันให้เกิดพยายาม ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ วิคเตอร์เล่าว่า “จริงๆ รู้สึกช็อคมาจนถึงปัจจุบัน ในตอนแรกผมก็รู้สึกช็อคแล้วที่ทางมหาวิทยาลัยอยากส่งผมเข้าคัดเลือกนิสิตนักศึกษา เพื่อรับรางวัลพระราชทาน ระดับอุดมศึกษา ผมรู้สึกหวั่นใจตรงที่ผมต้องแข่งขันกับนักศึกษาทั่วประเทศไทย ทำให้ผมถามกับตัวเองเสมอว่า เราจะไหวเหรอ เราจะทำได้เหรอ แต่สุดท้ายตัดสินใจเชื่อมั่นตัวเองและส่งผลงานที่ผมสะสมมาตลอด 4 ปี ในเมื่ออาจารย์เชื่อในตัวผม มั่นใจว่าผมจะทำได้ หลังจากที่ได้ส่งผลงานไปสักพัก ทางมหาวิทยาลัยก็แจ้งกับเราเรื่องติดเข้ารอบไปสัมภาษณ์ ตอนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก เพราะว่าเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยรังสิต ผมคิดว่าถ้าผมได้รางวัลจริงๆ ก็ถือว่าเป็นโบนัสในชีวิต ในวันที่สัมภาษณ์ผมรู้สึกกังวลมากเพราะต้องนำเสนอเป็นภาษาไทย สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือ การพูดออกมาจากความรู้สึก ผมรู้สึกว่าถ้าเราพูดมันออกมาจากใจ ในที่สุดแล้วมันเป็นสิ่งที่กรรมการจะรู้ว่าเราพูดจริง สิ่งที่ผมได้จากการเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต ผมพูดออกมาจากตัวผมจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าผลจะออกมายังไง เราทำดีที่สุดแล้ว หลังจากนั้นเกิดสถานการณ์โควิด-19 เกิดขึ้น ผ่านไป 6 เดือน ผมรู้สึกไม่คาดหวังอะไรแล้ว จนวันหนึ่งอาจารย์โทรศัพท์มาหาผม บอก วิคเตอร์เรามีข่าวดีจะบอก ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะเป็นเรื่องผลรางวัลพระราชทาน พออาจารย์พูดว่า วิคเตอร์ ยินดีด้วยนะครับ ได้รางวัลพระราชทาน มันเป็นโมเมนต์ที่ผมช็อคมาก ผมไม่คิดเลยว่าผมจะได้รางวัลนี้”
ประสบการณ์ที่เจอตอบโจทย์ในชีวิตการทำงาน
วิคเตอร์เป็นหนึ่งคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถและศักยภาพทางความพร้อมที่จะเผชิญกับเรื่องราวใหม่ๆ ฝึกฝนและทำมันให้ดีที่สุด วิคเตอร์เล่าว่า
“ผมทำงานเป็นเอเจนซี่ครับของบริษัทที่มีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย การที่ผมได้ทำงานนี้ บอกเลยว่ามาจากสิ่งที่ผมเรียนมาจากอาจารย์ ผมรู้สึกว่ามันใช้ได้ในชีวิตการทำงานจริงๆ โดยเฉพาะการได้รับการฝึกฝนเรื่องการพูด หน้าที่ AE คือ การที่ต้องสื่อสารกับลูกค้า ทำให้เรื่องการพูด เป็นสิ่งหนึ่งที่ทางมหาวิทยาลัยให้ผมมาและผมทำได้จริงๆ รวมถึงการทำงานเป็นทีมที่ผมได้ประสบการณ์จากทางมหาวิทยาลัยด้วย ที่ผ่านมาผมได้ฝึกความเป็นผู้นำ ผมได้เจอความผิดพลาดจากการเป็นผู้นำมาเยอะมาก จึงเป็นโอกาสทำให้ผมเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นๆ ทำให้ประสบการณ์เหล่านั้นมันช่วยให้การทำงานในปัจจุบันผมดีมากๆ ครับ”
สิ่งที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำ
“จริงๆ ผมอยากเป็นครูสอนบุคลิคภาพด้านการการพูดครับ อยากแชร์ต่อ อยากถ่ายทอด ประสบการณ์ที่เราเคยได้ลงมือทำมา เพราะสิ่งเหล่านั้นทำให้ผมเป็นอย่างที่เป็นอยู่ จริงๆ เราทุกคนสามารถพูดเก่งได้ ภาษาอื่นๆ ก็สามารถพูดได้ เพียงแค่เราเปิดใจและมั่นใจ ซึ่งผมอยากแชร์เรื่องเหล่านี้ครับ”
"