หากความฝันของคุณคือการได้ศึกษาต่อต่างประเทศ แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ความฝันนั้นยังไม่เป็นจริง ลองมาฟังประสบการณ์จากสาวน้อยบัณฑิตป้ายแดงจากสาขาวิชานิเทศศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต กับการเรียนหลักสูตรสองปริญญา ในโครงการ 3+1 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต และ University of Canberra ประเทศออสเตรเลีย

เธอเลือกนิเทศศาสตร์ อินเตอร์

“ตั้งแต่ตอนเรียน ม.2 พี่ชายของแคทเรียนนิเทศค่ะ เคยแอบทำข้อสอบ assignment อะไรแบบนั้นแล้วเราตอบถูกหมด เลยดีใจค่ะ บวกกับเป็นคนชอบเขียน ชอบแต่งเรื่อง ชอบถ่ายรูป ก็คิดว่าเราต้องมาสายนี้แล้วล่ะ แต่ตัดสินใจเลือกเรียนหลักสูตรอินเตอร์เพราะว่า แคทใช้ภาษาอังกฤษได้ และไม่อยากเสียทักษะทางภาษาไป ก็หลักสูตรที่ตอบโจทย์ก็ต้องนิเทศศาสตร์ อินเตอร์ ด้วยบุคลิกของแคทเราก็รู้จักตัวเองระดับหนึ่ง คิดว่าเรียนเอกชนจะเหมาะที่สุด เลยมองหามหาวิทยาลัยที่เน้นให้นักศึกษาได้มีอิสระในการเรียนรู้ มีกรอบให้แต่นักศึกษาดีไซน์เอง จากวันที่เป็นน้องปีหนึ่ง วันนี้ก็จบมาแล้ว สี่ปีที่ผ่านมาเราเป็นคนเดิมที่หนักแน่นมากขึ้นค่ะ ที่ RIC วิทยาลัยนานาชาติ ม.รังสิต ขอใช้คำว่าอาจารย์เจ๋งที่สุดค่ะ ไม่เพียงเชี่ยวชาญเก่ง ยังเข้าใจเด็กด้วยค่ะ ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมความเป็นทีมเวิร์กของอาจารย์และเจ้าหน้าที่ มันส่งมาถึงนักศึกษาค่ะ พวกเขาเอาใจใส่มากๆ ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยบังคับว่าเราต้องทำอะไร แคทได้ทำโปรเจกต์กับเพื่อนๆ ต่างชาติ มีบ่อยครั้งที่คิดเห็นไม่ตรงกัน แต่การมีอาจารย์ที่ปรึกษาเจ๋งๆ มันทำให้งานจบและสมบูรณ์แบบ”

เรียนที่รังสิต 3 ปี และเรียนที่ออสเตรเลีย 1 ปี

“แคทได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับโครงการ 3+1 ตั้งแต่เข้ามาเรียนเลยค่ะ จะมีพี่ๆ เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเพื่อเราจะได้วางแผนการเรียน ต้องขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้เราได้รู้จักโครงการนี้ จำได้ว่าหลังจากได้ฟังกลับบ้านไปวันนั้นก็ไปเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง ซึ่งท่านสนับสนุนและตัวเราเองก็สนใจ เล่าแบบสรุปก็คือ โครงการ 3+1 จะเรียนที่ไทย 3 ปีและเรียนที่ต่างประเทศ 1 ปี หลังจากเรียนจบจะได้รับปริญญาบัตร 2 ใบค่ะ บอกได้เลยในฐานะคนที่เรียนจบมาแล้ว การได้เรียนหลักสูตรนี้เปิดโลกเลยค่ะ เราจะได้เห็นโลกที่ไม่ได้ถูกมองจากมุมเดียว และที่สำคัญเมื่อต้องไปเรียนต่างประเทศเราจะได้จัดระเบียบชีวิตของตัวเอง และมันทำให้เราดูแลตัวเองได้ดีมากขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น สิ่งที่แคทไปเรียนเป็นเกี่ยวกับ Marketing Communication แม้ว่าจะเรียนต่างที่ ต่างผู้สอน แต่ไม่พบปัญหาอะไรที่เราปรับไม่ได้ แต่กลับได้ความสมดุลในตัวเราเองมากขึ้น ที่รังสิตเราเรียนทุกด้านของนิเทศศาสตร์ หรือที่เราเรียกว่านิเทศศาสตร์องค์รวม ส่วนเนื้อหาที่ University of Canberra มันทำให้เรามีความ Realistic เพราะแคนเบอร์ราเป็นเมืองของข้าราชการ เราต้องมีความแม่นในการทำรีเสิร์ชและดูความเหมาะสมของงาน ไม่ให้มีความครีเอทีฟจนมากเกินไป ตอนไปอยู่ที่นั่นได้ฝึกงานที่สถาบันสุขภาพ (Australian Institution of Health and Welfare) เป็นฝ่ายมีเดีย มันไม่เหมาะกับเราเลย แต่มันเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างมันทำให้ต้องปรับตัวหลายด้านพวกชีวิตประจำวันอะไรแบบนี้ค่ะ คิดถึงเพื่อนมากกว่า เรียนที่ไทยยังมีเพื่อน แต่สิ่งที่ได้จากออสเตรเลียเป็นเรื่องทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ค่ะ ได้ทำงานพาร์ทไทม์หาเงินใช้ ก็ดีมากๆ ไปอีกแบบค่ะ”

เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ต้องทำอย่างไร

“จริงๆ ไม่มีเคล็ดลับหรือวิธีการอะไร เหตุผลง่ายๆ ที่เราทำมันได้ดี เรียนจบมาได้ดี เพราะเราได้ทำในสิ่งที่มันใช่ หรือที่เรียกกันว่า Passion  เพราะกว่าจะผ่านอะไรมาได้ต้องเจอเรื่องท้อ เหนื่อย แต่อย่างไรก็ตามมันคือสิ่งที่เราเลือก เลือกเพราะเราอยากทำ เลือกเพราะเราชอบ ดังนั้น ทำให้ดีในสิ่งที่เราเลือก มันต้องออกมาดี”

เรียนอินเตอร์ คำนี้ที่หลายคนกลัว

“เข้าใจความรู้สึกกลัวนะคะ แต่ถ้าไม่เอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ต้องใช้ภาษาเราอาจจะไม่ได้หยุดกลัว การเลือกเรียนหลักสูตรอินเตอร์ ก็คือการเลือกแล้วว่าจบมาอย่างน้อยเราพูดภาษา เราสื่อสาร และเรามี Connection เพื่อนๆ ต่างประเทศแน่นอน ได้ยินแค่นี้แคทว่าคุ้มค่ะ หยุดกลัวแล้วลองเริ่มต้นดู นักศึกษาต่างชาติที่เขาต้องมาเรียนที่เรา เขาก็กลัวเหมือนกันค่า แต่ทุกคนก็ต้องมีจุดที่ก้าวผ่านมันมาได้และตัดสินใจ เอาชนะความกลัวให้ได้ เพราะตอนมองกลับมาดูตัวเองมันรู้สึกภูมิใจ”

ประสบการณ์ที่เราจะได้รับเข้ามาในชีวิตนั้น มันเป็นผลพวงมาจากสิ่งที่เราเลือก เราตัดสินใจ และไม่ว่าเราจะเลือกอะไรเข้ามาในชีวิตเราก็ตาม ขอให้ทุกคนอย่าลืมความเป็นตัวของตัวเอง ทำในสิ่งที่เราอยากทำ เพราะความชอบมันจะเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวต่อในยามที่เราท้อ จุดหมายปลายทางก็คงมองเห็นได้ด้วยจากแรงผลักดันตรงนี้