ขอเสียงปรบมือแบบดังๆ ให้แก่ Mr.Runzhi Shi ที่คว้าแชมป์จากการแข่งขันรายการ 8MILE Rap Competition ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน และขอส่งกำลังใจให้น้องสำหรับการแข่งขันระดับชาติที่กำลังจะมาถึงในการแข่งขันรอบต่อไป

Mr.Runzhi Shi นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า 8MILE เป็นการแข่งขันร้องแร็ปเวทีใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เปิดโอกาสให้นักร้อง หรือ แร็ปเปอร์ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งในปี 2022 นี้ ได้เปิดฤดูกาลการแข่งขันในหัวข้อ "College Rap League"  เพื่อคัดเลือกแชมป์จากสถานศึกษาต่างๆ เข้ามาเพื่อชิงรางวัลระดับประเทศ

“ผมทำเพลงแร็ปมาตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมครับ และก็ชื่นชอบเกี่ยวกับการร้องแร็ปมากๆ ครับ ฝันอยากเข้าร่วมการแข่งขัน แต่ก็รอจนมีโอกาสที่เหมาะสม และหลังจากที่ผมกลับมาประเทศจีนในรอบนี้ ผมก็อยากจะแสดงศักยภาพ และความพร้อมที่ผมเตรียมตัว ฝึกฝนมา จึงได้สมัครเข้าแข่งขันในนามตัวแทนจากมหาวิทยาลัย สำหรับการแข่งขันในรอบนี้ผมไม่เพียงเตรียมตัวด้านเพลงเท่านั้น แต่ยังต้องออกแบบการแสดงบนเวทีด้วย กับรางวัลในครั้งนี้ เป็นความภูมิใจในขั้นต้น ผมยังต้องมุ่งมั่น และเรียนรู้อีกมาก เพื่อรอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศที่รอคอยให้ผมไปแสดงตัวตนของผม นอกจากนี้ ผมยังได้พบกับแร็ปเปอร์ชื่อดัง ที่เป็นไอดอลอีกด้วย เมื่อได้มองดูพวกเขา ผมรู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจ ที่จะพาตัวเองได้ทำในสิ่งที่ชอบ ทำตามความฝัน  จริงๆ แล้ว ดนตรีเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ดีอีกหนึ่งช่องทาง เราจะสามารถส่งข้อความ ส่งสารไปถึงผู้ฟังได้  สำหรับผมเองก็มีอะไรที่อยากเผยความคิด อยากสื่อสารความรู้สึก แชร์มันออกไป และไม่ว่าจะพบกับรางวัลอีกสักกี่รางวัล หรือคำชื่นชมมากมาย ผมก็จะขยันหมั่นเรียนรู้ เก็บคำแนะนำ รับฟังคอมเมนท์ต่างๆ มาเพื่อพัฒนาตัวเอง จะไม่ปล่อยให้ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ทำให้หลงทาง และหลงตัวตนไป”

สำหรับหนุ่มน้อยมากความสามารถคนนี้เขาเป็นนักเรียนชาวจีน ที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน และตั้งใจเลือกมาศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยยังประเทศไทย

“ผมเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต เพราะว่าที่เมืองจีน ข่าวสารของมหาวิทยาลัยรังสิตโดดเด่นครับ ชัดเจน และน่าสนใจ เรียกได้ว่าสื่อและการประชาสัมพันธ์เข้าถึงได้ จับต้องได้  และที่สำคัญไปกว่านั้น สาขาวิชาที่ผมอยากเรียน ที่นี่มีเป็นหลักสูตรอินเตอร์ เมื่อตอนก่อนเปิดเทอมผมก็เตรียมตัวมาค่อนข้างเยอะครับ ที่นี่สร้างความประทับใจให้กับผมตั้งแต่วันแรกเลยครับ แม้ผมจะอยู่ในสภาพแวดล้อมจะต้องปรับตัวมากมาย แต่สังคม และผู้คนที่นี่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง ไม่เพียงเรื่องการเรียน แต่การได้เข้าร่วมกิจกรรมก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ละลายพฤติกรรม ที่หล่อหลมให้พวกเรารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน ไลฟ์สไตล์ของผมเอง ผมไม่เหมาะกับอะไรที่เป็นด้านวิชาการเท่าไหร่ครับ แต่ผมก็เรียนรู้ ปรับตัว และสร้างความรับผิดชอบให้กับตัวเอง เพือจะได้บริหารจัดการในทุกๆ ด้าน ได้อย่างลงตัว สำหรับแผนในอนาคต ผมอยากเรียนให้สูงที่สุดที่จะทำได้ครับ ยังไงผมก็ให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นหลักด้วยครับ การทำงานยังคงต้องการใช้ใบปริญญาเป็นเครื่องการันตี แม้ว่าในการทำงานจริงๆ นั้น เราจะต้องแสดงศักยภาพไปพร้อมๆ กับความสามารถและการนำความรู้ไปใช้ และยิ่งสำหรับการได้มีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ได้รู้จักเพื่อนๆ ต่างชาติมากมาย เหล่านี้จะเป็นการได้เปิดโลกทัศน์ ได้ปรับมุมมอง และได้มองเห็นอะไรที่ต่างกันออกไป เพื่อมาปรับใช้กับตัวเราและอนาคตของตัวเราเอง”