ถ้าพูดถึงภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Spiderman : Into the Spider-Verse เชื่อว่าค่อนข้างเป็นที่รู้จักเป็นอย่างมากสำหรับคนไทย แต่จะมีสักกี่คนรู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังที่มาของภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่พริ้วไหว สวยงาม อลังการและยียวนกวนประสาทเรื่องนี้ จะมีทีมงานคนไทยร่วมอยู่ในทีมด้วย เรามารู้จักกับเซ้ง-ธนาวัต ขันธรรม ศิษย์เก่าสาขาวิชาคอมพิวเตอร์เกมมัลติมีเดีย วิทยาลัยนวัตกรรมดิจัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต คนไทยที่คว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ (Oscar Award & Golden Globe) สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมปี 2019 มาให้คนไทยมาให้ได้ภูมิใจในวันนี้
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ชีวิตก้าวไปอีกขั้นของเซ้งคือ ตอนเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 มีเพื่อนนักศึกษาแลกเปลี่ยนมาจากประเทศสวีเดน ทำให้คิดว่าถ้าเราเป็น Animator เราน่าจะหางานที่ต่างประเทศได้ง่ายขึ้น เพราะทั่วโลกมีบริษัทที่ทำด้านแอนิเมชั่นเยอะมาก เช่น Future animation, Netflix animation ซึ่งความต้องการ Animator ของแต่ละบริษัทนั้นสูงมากเช่นกัน นี่จึงเป็นข้อดีที่ของการเลือกทำงานด้านนี้ในต่างประเทศ
ภาพประกอบจาก FB : Thanawat Seng Khantrum
เซ้งเล่าถึงก้าวแรกของอาชีพ Animator ก่อนที่จะเข้ามาร่วมงานกับบริษัทแอนิเตอร์ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ใน 3 ของ โลกว่า หลังเรียนจบผมได้ทำงานที่ The Monks Studio ประเทศไทย ทำอยู่ได้ประมาณ 3 ปีครึ่ง ก็ย้ายมาทำงานที่ Original Force ประเทศจีนอีกประมาณ 2 ปีครึ่ง ก็ได้มีโอกาสไปทำงานที่ Sony Imageworks ประเทศแคนาดา โดยผลงานที่ผ่านมาคือ เอนิเมชั่นเรื่อง Hotel Transylvania 3 ตามมาด้วยเรื่อง Spiderman Into the spider-verse และตอนนี้กำลังสร้างผลงาน เรื่อง Angry Birds 2
กว่าจะมาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นหนึ่งเรื่อง ทีมงานทุกคนต้องทำงานกันหนักมาก อย่าง Spiderman ทีมงานทำงานกัน 70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ยาวนานติดต่อกัน 4-5 เดือน ในวันที่รู้ว่าภาพยนตร์ Animation ที่ตัวเองทำได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ก็ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก เพราะมีภาพยนตร์ Animation อีก 2 เรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันเข้าชิงรางวัลด้วย ซึ่งวันที่ประกาศผลรางวัลทีมงาน Spiderman กว่า 600 คนมารวมตัวกันที่บริษัท เพื่อชมการถ่ายทอดสดการประกาศผลรางวัล สุดท้ายรางวัลแห่งเกียรติยศก็เป็นสิ่งที่บอกได้ว่า Spiderman Into the spider-verse คุ้มค่ากับความตั้งใจและทุ่มเทของทีมงานทุกคน
ภาพประกอบจาก FB : Thanawat Seng Khantrum
หลังจากที่ได้รับรางวัลก็มีคนเริ่มติดตามผลงานของเรามากขึ้นทางเฟสบุ๊ก ผมเลยพยายามแชร์งานหรือประสบการณ์ต่างๆ เพราะว่าเด็กรุ่นหลังเค้าเริ่มมองว่าเราสร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้ ต้องบอกเลยว่าตอนเซ้งเป็น Animator ใหม่ๆ การหา Inspiration นั้นค่อนข้างยาก ดังนั้น ผมจึงคิดว่า Inspiration เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กรุ่นใหม่ในตอนนี้
ไลฟ์สไตล์ของ Animator อย่างเซ้ง คือ 1. ต้องเป็นคนช่างสังเกตเพราะการเป็น Animator คือการสร้างสิ่งมีชีวิตจากโมเดภาพประกอบจาก FB : Thanawat Seng Khantrumล 3D ที่ไม่มีชีวิตให้มันขยับได้ ให้มีชีวิตอย่างอย่างที่เราต้องการ เช่นถ้าเรา Animate น้องหมาเราจะต้องรู้ว่าการก้าวเดินของน้องหมาทางกายวิภาคศาสตร์นั้นเป็นอย่างไร ขยับอย่างไร ฯลฯ 2. ต้องเป็นคน Creative เรื่อง Idea เพราะว่าการแสดง Acting หรือ Action แต่ละท่าพวกนี้มันต้องใช้ Idea ที่สดใหม่เสมอ 3. กล้าแสดงออกเพราะว่า Animator มันก็เหมือน Acting เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ทำงานหน้ากล้อง แต่ว่าเราทำงานเบื้องหลังดังนั้นเราต้องรู้ทุกอย่างหรือมากกว่าคนทำงานหน้ากล้อง
ภาพประกอบจาก FB : Thanawat seng Khantrum
ตอนไปทำงานต่างประเทศใหม่ๆ คิดว่าเราจะเสียเปรียบคนต่างชาติในเรื่องของฝีมือ แต่เมื่อเราได้พิสูจน์แล้วว่าฝีมือเราไม่ได้ด้วยไปกว่าคนชาติใดๆ ในโลกเลย แต่เป็นเรื่องของภาษาต่างหาก ดังนั้น ผมจึงพัฒนาตนเองทางด้านภาษาเพื่อให้สามารถสื่อสารกันเข้าใจ อนาคตผมวางแผนไว้ว่าจะทำงานด้าน Animator ที่ต่างประเทศอีกประมาณ 4-5 ปี และจะกลับมาเปิดบริษัทด้าน Animation ในเมืองไทย
ข้อคิดในการใช้ชีวิตของ Animator เซ้ง คือ ตามความฝันไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเราไม่เริ่มต้นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามความฝันซะตั้งแต่วันนี้ วันหนึ่งเราจะต้องเสียดายมันมากๆ ก่อนที่ผมจะได้เข้าไปทำงานที่ Sony Imageworks ก็มีเสียงหลายเสียงคอยบั่นทอนตัวเรา แต่สิ่งที่ทำให้ผมยึดมั่นมาโดยตลอดคือ ตัวเอง เพราะผมเชื่อว่าผมสามารถทำมันได้ เราต้องเชื่อมั่นในตัวเอง
“ไม่คิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะมาไกลได้ขนาดนี้ จากเด็กที่นั่งอยู่หลังห้องเรียน วาดแต่รูปตัวการ์ตูนในสมุดจดการบ้าน สอบทีก็ต้องมีซ่อมเพื่อแก้เกรด จนมาถึงวันที่ได้ถือรางวัลระดับโลก”
"