ตามที่คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยรังสิต ได้แต่งตั้ง ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี และได้มีหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง โดยมีผลวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 นั้น เพื่อให้การบริหารงานของมหาวิทยาลัยรังสิต ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยรังสิต จึงมีมติให้แต่งตั้ง ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ทั้งนี้มีผลตั้งแต่ วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ยังคงเป็นตำนานของมหาวิทยาลัยรังสิต ของประเทศชาติ และท่านยังคงเป็นเสาหลักให้กับมหาวิทยาลัยของเราต่อไป และตลอดไป ด้วยคุณูปการของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ท่านเป็นผู้บุกเบิก เป็นผู้ที่คิดต่างอย่างสร้างสรรค์
“เมื่อสมัยเปิดวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ตอนนั้นในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ก็จะไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนสักเท่าไร แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ นั้น จนถึงปัจจุบัน วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้สร้างอาชีพให้เด็กๆ ได้เป็นหมอ รุ่นละ 100 คน 150 คน ระยะเวลา 30 ปีผ่านไปก็นับรวมได้เป็นหลักพันคน เพื่อไปตอบโจทย์และความต้องการของประเทศ ที่ต้องการหมอ ต้องการบุคลากรทางการแพทย์มากมาย คณะทันตแพทยศาสตร์ก็ดี คณะเทคนิคการแพทย์ก็เป็นที่ต้องการบุคลากร และอีกมากมาย ผมเองก็ติดตามท่านมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ตั้งแต่เป็นผู้ว่าการประปา หรือแม้ตอนที่เป็นนักการเมืองออกหาเสียงก็ตาม นี่จึงเรียกได้เต็มปากว่า ท่านผู้นี้เป็นตำนานอย่างแท้จริง เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยรังสิตนั้น ตัวผมก็ผูกพัน มาที่นี่ตั้งแต่ยังเป็นทุ่งรังสิต เมื่อขับรถเข้ามาก็จะรู้สึกเหมือนว่ามาไร่มานา ยามค่ำคืนก็ได้ยินเสียงจักจั่นเรไรร้อง จนเวลาผ่านมาค่อยๆ เติบโตจากสองคณะ มาสู่สามสิบกว่าคณะ มหาวิทยาลัยรังสิตของเราถูกขนานนามว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับที่ 5 บ้าง อันดับที่ 7 บ้าง เมื่อสิบปีต่อมานี้ก็ขยับมาเป็นอันดับที่ 3 บ้างหล่ะ แต่ช่วง 8 ปีที่ผ่านมานี้ เราได้รับการจัดอันดับจาก Webometrics Ranks ให้เป็นอันดับที่ 1 มาโดยตลอด หรือแม้การประเมินจาก สมศ. เราก็ได้รับการประเมินให้อยู่ในระดับดีมาก นั่นหมายถึง คุณภาพของมหาวิทยาลัยของเรา การเรียนการสอนที่โดดเด่น ภารกิจต่างๆ ที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นด้านการช่วยเหลือสังคม ด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ด้านการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และอีกมากมาย คำถามก็คือแล้วเราจะต่อยอด จะพัฒนามหาวิทยาลัยให้ดียิ่งขึ้นไปอย่างไร แผนพัฒนาของมหาวิทยาลัยรังสิตของเรานั้น ได้ถูกจัดทำขึ้นทุกๆ 5 ปี และปีล่าสุดนั้นก็ได้เน้นอยู่ 5 เรื่องใหญ่ๆ แบ่งออกเป็น Academic / Innovation Research / Internationalization / Image Reputation และ Smart Organization ซึ่งในรายละเอียดก็ต้องให้พวกเราช่วยกัน ไม่เพียงองค์กรที่เราจะต้องร่วมกันผลักดัน ในส่วนของนักศึกษาก็อยากให้พวกเราช่วยกันดูแล สอดแทรกความเป็นสังคมธรรมาธิปไตย เราต้องสอนทักษะความดีให้แก่พวกเขาด้วย หรือทางด้านกายภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณมหาวิทยาลัย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ต้องดูแลตรงนี้ให้ดี ช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ได้ทำงานที่มหาวิทยาลัยรังสิต ผมก็ได้ทำงานมาหลายหน้าที่ ทั้งในส่วนกลาง และการบริหารคณะ ด้วยองค์กรของเราเป็นองค์กรที่ใหญ่ ผมเองก็อยากให้พวกเราได้ทำงานอยู่บนพื้นฐานของความดี ความยุติธรรม ร่วมกันผลักดันและทำงานโดยยึดหลักสังคมธรรมาธิปไตยเช่นกัน ไม่ว่าแผนพัฒนาของมหาวิทยาลัยที่พวกเราตั้งไว้นั้น จะสำเร็จในระดับใดก็ตาม ผมเองก็จะตั้งใจทำร่วมกับพวกเราอย่างดีที่สุด
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์
“ผู้คิดต่าง สร้างสรรค์ ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง - A Man Called Arthit”
ด้วยปรัชญาการทำงานที่ยึดหลักสังคมธรรมาธิปไตย ส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาชาติ บ้านเมือง ควบคู่ไปกับการจุดประกายพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ท่านพร่ำสอนอยู่เสมอว่า การแตกต่างไม่ใช่การแตกแยก แต่ความแตกต่างนั้น ยังประโยชน์อะไรคืนสู่สังคม ผู้กล้า สร้างการเปลี่ยนผ่าน ผู้นำที่กล้าคิด กล้าที่จะทำนอกกรอบ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และความมั่นคงให้แก่องค์กรเสมอมา ผู้ใหญ่ใจดีคือคำจำกัดความ ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของดร.อาทิตย์ ได้เป็นอย่างดี บุคคลที่คนทั้งมหาวิทยาลัยรังสิตไม่ได้เรียกท่านว่าอธิการบดี แต่กลับเรียกท่านว่า... คุณพ่อ และไม่ว่าจะบทบาทไหน คำสอนใด ล้วนมีนัยยะให้เฝ้าติดตาม และตระหนักคิดอยู่เสมอมา
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 37 ปีในช่วงชีวิตการทำงานที่มหาวิทยาลัยรังสิต เราได้ตั้งปณิธานว่า ที่นี่จะต้องเป็นมหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบ ที่การศึกษาคือนวัตกรรม และเราจะเป็นขุมพลังแห่งปัญญาของชาติ ที่จะปฏิรูปชี้นำทางประเทศไทย ไปสู่สังคมธรรมาธิปไตย แม้ว่าจะยังไม่บรรลุถึงเป้าหมายที่อยู่ปลายทาง แต่อย่างน้อยเราก็เดินาถูกทางแล้ว และเราก็ได้เดินทางกันมาไกลมาโขอย่างอัศจรรย์ใจ
“พวกเราเดินทางกันมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย บากบั่น มุมานะ บุกป่าฝ่าดงขึ้นเขาลงห้วยด้วยความยากลำบากอย่างแสนสาหัส ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย แต่พวกเราก็ไม่ย่อท้อ เสียสละอุทิศทุ่มเทกันมา บัดนี้เราก็เดินทางมาได้ไกลกว่าครึ่งทางแล้ว อีกไม่นานนักเราก็จะเดินทางไปถึงสังคมธรรมาธิปไตย ดินแดนที่เราใฝ่ฝันหา ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ความร่วมแรงร่วมใจ ความรักสามัคคี ทำให้มหาวิทยาลัยรังสิตอยู่รอดปลอดภัย ผ่านวิกฤตที่สำคัญมาได้ถึง 4 ครั้ง วิกฤตแรกคือวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 หรือที่เราเรียกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง มหาวิทยาลัยรังสิตได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างมาก กระทบไปถึงกลุ่มธุรกิจในเครือ จนเรียกได้ว่า เราแทบจะล้มละลาย จนผมต้องกลับมาเป็นอธิการบดีในปี 2544 เพื่อแก้ไขสถานการณ์และกอบกู้มหาวิทยาลัยให้ฟื้นกลับมาได้อย่างมั่นคง วิกฤตครั้งที่สองคือเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ซึ่งเป็นวิกฤตที่รุนแรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มหาวิทยาลัยรังสิตและขาวหลักหกจมอยู่ใต้น้ำนานกว่าสามเดือน เมื่อน้ำลดเราก็ทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมและดีกว่าเดิม จนเป็นที่กล่าวขวัญและยกย่องของคนทั้งประเทศ วิกฤตครั้งที่สาม เราเรียกว่า Technology Disruption ทางการศึกษา ทำให้จำนวนนักศึกษาของทุกมหาวิทยาลัยลดลงอย่างมาก มหาวิทยาลัยรังสิตเองก็พยายามรัดเข็มขัด ปรับองค์กรจนผ่านพ้นมาได้ด้วยดี เมื่อเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง ที่ต้องปิดคณะ ปิดหลักสูตร หรือแม้กระทั่งต้องขายมหาวิทยาลัยกันเลย และวิกฤตครั้งที่ 4 คือสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่เราไม่เพียงแต่ต้องฟันผ่าเอาตัวรอด แต่เรายังทำงานร่วมกับชาวปทุมธานี ชาวหลักหก และยังเปิดให้บริการเป็นศูนย์วัคซีนเพื่อประชาชน ช่วยเหลือสังคมและผู้คนให้อยู่รอดปลอดภัย วิกฤตการณ์เหล่านี้ได้สร้างภูมิคุ้มกันชั้นเลิศให้กับมหาวิทยาลัยรังสิตและชาวรังสิตทุกคน จนทำให้ผมมั่นใจ ไม่ว่าจะเจอวิกฤตอีกกี่ครั้ง เราะฟันฝ่าต่อไปได้ เหมือนกับที่พวกเราร่วมกันฟันฝ่าจนทำให้มหาวิทยาลัยรังสิตเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศได้ในวันนี้ ผมขอขอบคุณและขอชื่นชมความเสียสละของพวกเราชาวรังสิตทุกคนเป็นอย่างยิ่ง พี่น้องชาวรังสิตที่รักทุกท่าน การเดินทางย่อมวันสิ้นสุด งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา วันนี้ผมมาอำลาทุกท่านมาส่งมอบภารกิจและหน้าที่ของมหาวิทยาลัยรังสิต และชาติบ้านเมืองให้พวกเราทุกคนร่วมกันสานต่อปณิธาน และความมุ่งมั่น ทำความฝันของพวกเราให้กลายเป็นความจริงให้ได้ ผมเชื่อมั่นว่าเราจะประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ในที่สุด และสุดท้ายนี้ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระศรีศาสดา องค์พระสุริยเทพ และพระเมตตาบารมีแห่งองค์พระมหาบูรพกษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ จงปกป้องคุ้มครองมหาวิทยาลัยรังสิตและพวกเราทุกคน ให้พบแต่ความสุขความเจริญความก้าวหน้า และพบความมั่นคงในชีวิตตลอดไป”
"