“พยาบาล” เป็นอีกวิชาชีพหนึ่งที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น เปรียบได้กับ “นางฟ้าชุดขาว” ที่เป็นผู้เสียสละดั่งนางฟ้า เป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิต

กว่าจะเป็นพยาบาลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะเป็นก็ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเรื่องของใจ เช่นเดียวกับคุณปานจันทร์ บังเกิดผล ศิษย์เก่าคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต รุ่นที่ 3 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลพญาไท 3 ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวเบื้องหลังในชุดสีขาวที่ใช้ใจในการทำงานให้เราฟังว่า พี่เป็นนักศึกษาพยาบาล รุ่นที่ 3 เป็นรุ่นแรกๆ ของมหาวิทยาลัยรังสิต ช่วงนั้นอาจจะยังมีคนที่ไม่ค่อยรู้จัก ม.รังสิต มากนัก ด้วยความที่เป็นมหาวิทยาลัยเปิดใหม่มีคนไม่เยอะมากเลยมีความสนิทสนมกัน รู้จักกันทั้งมหาวิทยาลัย เป็นความรู้สึกที่อบอุ่น และยังคงความเป็นเพื่อนกันจนถึงทุกวันนี้


ก้าวสู่วิชาชีพพยาบาล
พี่ทำงานที่โรงพยาบาลพญาไท 1 มา 5 ปี หลังจากนั้นย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท 3 ช่วงแรกอยู่ไอซียู และเป็นหัวหน้าไอซียู จากนั้นเป็นผู้จัดการส่วน ทำงานส่วนกลางในเรื่องการสรรหาพยาบาล เทรนนิ่ง และตำแหน่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล ทำหน้าที่อำนวยการให้น้องๆ พยาบาลทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งร่วมกันกำหนดนโยบายทิศทางขององค์กรร่วมกับผู้บริหาร

ว่ากันว่าอาชีพเป็นพยาบาล ทำแล้วได้บุญ ส่วนตัวคิดอย่างไร
เห็นด้วยนะคะ เพราะการทำงานของน้องๆ หรือตัวพี่เองเชื่อว่าในช่วงเวลาที่น้องทำงานไม่ได้คิดถึงเรื่องเงิน เราจะคิดถึงแต่เรื่องของคนไข้ เขาเจ็บป่วยมา เราเห็นใจเขา อยากดูแลให้เขาฟื้นหาย คิดว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของบุญ ส่วนตัวพี่เชื่อในเรื่องของพาสซีฟบุญ เราสามารถสร้างระบบที่สามารถทำให้พยาบาลดูแลให้คนไข้ฟื้นหายได้ ถึงแม้ว่าเราจะเกษียณอายุไปแล้วแต่ยังมีคนรุ่นหลังที่เขามีความเก่งมากพอ มีความดี มีความเชื่อที่เหมือนเรา ในการที่จะดูแลคนไข้ต่อไปมันก็เกิดบุญมาที่ตัวเรา เพราะเราเป็นคนสร้างระบบนี้ขึ้นมา ส่วนตัวเป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อเรื่องนี้ไปจนถึงเรื่องของพาสซีฟบุญ


หัวใจของการเป็นพยาบาล
การดูแลคนไข้ไม่ได้มีแต่เรื่องการดูแลแค่ทางกาย แต่มีเรื่องของความเชื่อและภาวะจิตใจของเขาด้วย ถ้าเราไม่ได้เอาความเมตตาและปรารถนาดีเข้ามาใส่ เราไม่สามารถที่จะดูแลคนไข้ครบองค์รวมได้ ส่วนตัวเชื่อว่าหัวใจของการเป็นพยาบาลนั้นคือ ต้องใช้ความรู้ในเรื่องของศาสตร์ของการเป็นพยาบาลทุกมิติ และองค์ความรู้ของการเป็นพยาบาลมารวมกับความปรารถนาดี จึงจะสามารถเป็นพยาบาลที่ครบถ้วนและสามารถดูแลแบบที่เรียกว่าองค์รวมจริงๆ

ความแตกต่างของพยาบาลในอดีตกับปัจจุบัน
ต่างนะคะ เจเนอเรชันของคนก็ต่าง ไม่ใช่แค่เฉพาะพยาบาล คนไข้ก็ต่าง พยาบาลเราเป็นเจเนอเรชันใหม่ ซึ่งเหมือนๆ กับทุกอาชีพ เพียงแต่ว่าเมื่อเขาสวมบทบาทการเป็นพยาบาลแล้ว อาจจะมีกรอบโดยสังคมตีกรอบส่วนหนึ่ง เมื่อเราสวมเครื่องแบบความเป็นพยาบาลต้องมา ในชีวิตส่วนตัวอาจจะต้องระวัง อย่างเช่น การแต่งกาย การทำสีผม ถ้าอาชีพอื่นทำสกินเฮด ซอยสั้น ไม่แปลก แต่ในอาชีพพยาบาลทำไม่ได้ ทำให้คนไข้รู้สึกไม่เชื่อถือ เราต้องบาลานซ์ความเป็นตัวตนของน้องกับอาชีพ ส่วนวันหยุดของคุณก็เต็มที่ คนที่เลือกอาชีพนี้ก็จะยอมรับในความเป็นอาชีพเบื้องต้นอยู่แล้ว

เป้าหมายในวิชาชีพพยาบาล
ตำแหน่งในปัจจุบันนี้เกินความคาดหวังของตัวเองอยู่แล้ว ขอบคุณผู้บริหาร ขอบคุณอาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิตที่สั่งสอนเรามา ทำให้เรามีอาชีพมีทุกอย่าง ซึ่งอาจารย์ไม่ได้สอนความรู้อย่างเดียว แต่อาจารย์สอนวิธีคิด วิธีคิดต่างๆ ได้มาจากอาจารย์ที่สอนและจำมาถึงวันนี้ เป้าหมายในอนาคตของพี่ในอาชีพการเป็นพยาบาลคือ อยากให้วิชาชีพพยาบาลเป็นอาชีพที่คนยอมรับ ทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องของความขาดแคลนเยอะมาก และพยาบาลออกไปทำอาชีพอื่น อยากให้คนคงอยู่ในอาชีพเยอะๆ การที่จะเป็นอย่างนั้นได้คือ การทำงานอยู่ในองค์กรพยาบาลอย่างมีความสุข ในอนาคตอยากจะสร้างให้พยาบาลมี Value ที่ชัดเจน ให้ทุกคนในสหสาขาวิชาชีพ และวิชาชีพอื่นๆ ยอมรับ เมื่อมีคนพูดถึงอาชีพที่อยากเป็น อยากให้มีคำว่า อยากเป็นพยาบาล อยู่ในความตั้งใจนั้นด้วย เราจะทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับ Value ของพยาบาล นี่คือความตั้งใจที่อยากทำ


แนะนำน้องๆ ที่อยากเป็นพยาบาล
ถึงแม้ว่าจะเป็นอาชีพที่มีความกดดัน แต่พี่เชื่อว่าทุกอาชีพมีความกดดันของตัวเอง ทุกคนมีความยากในอาชีพของตัวเอง อย่ามองแต่ในเรื่องที่มันยาก จริงๆ แล้วพยาบาลเป็นอาชีพที่ดีมีความมั่นคง เราสามารถพัฒนาตัวเองและต่อยอดในงานอาชีพของเราไปได้หลากหลาย มีการก้าวหน้าในอาชีพได้อย่างแน่นอน สามารถนำอาชีพนี้มาเป็นองค์ความรู้ในการดูแลตัวเองและครอบครัว
"