จากธุรกิจสู่หน้าที่ อีกหนึ่งจิตอาสาในการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ ณัฐวุฒิ สุริยเสนีย์ ศิษย์เก่าวิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

20 Aug 2021

            “...กลัว แต่ก็เป็นหน้าที่ที่สำคัญอย่างหนึ่งในการช่วยบุคลากรทางการแพทย์” ... นี่เป็นเสียงของ ‘เซฟ’ หรือ นายณัฐวุฒิ สุริยเสนีย์ ศิษย์เก่าสาขาวิชาภาษาอังกฤษ วิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบันเป็นกรรมการบริษัท บริษัท สุริยา 9 คอฟฟิน จำกัด ที่วันนี้เขาได้มาบอกเล่าถึงประสบการณ์การทำหน้าที่จิตอาสา อีกหนึ่งบทบาทสำคัญในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ COVID-19 ของบริษัท สุริยาคอฟฟิน (Suriya Coffin) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดจำหน่ายหีบศพทุกประเภท และยังดูแลจัดการพิธีงานศพแบบครบวงจร

 

 

            “ผมเป็นศิษย์เก่าเอกอังกฤษ ศิลปศาสตร์ ม.รังสิต ครับ เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกเรียนด้านภาษา เพราะต้องการฝึกให้เป็นและจะได้นำไปใช้กับความสนใจและการทำงานครับ ก่อนหน้านี้มีตัวเลือกหลายมหาวิทยาลัยเลยครับ แต่ก็ตัดสินใจเลือกเรียนที่ ม.รังสิต เพราะว่าที่นี่มีสาขาวิชาที่ต้องการ และสภาพแวดล้อมก็ถูกใจครับ บอกได้เลยว่าที่นี่ตอบโจทย์มากเลยครับ แพลนที่วางเอาไว้ว่าเรียนจบอยากทำงานสายการบินครับ มุ่งมั่นถึงกับตอนเลือกเรียนวิชาโท ผมก็เลือกเรียนด้านการจัดการธุรกิจการบินของวิทยาลัยท่องเที่ยวและการบริการ บวกกับชอบเที่ยวด้วยครับ อยากไปเที่ยวหลายๆ ที่ ดังนั้นภาษาก็ต้องใช้แน่นอนครับ แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ไม่ว่าแพลนของใครก็คงต้องปรับเปลี่ยนไป ผมจึงตัดสินใจช่วยงานที่บ้าน ปกติเราเราจะให้บริการขายหีบศพ และก็มีเรื่อง Organize พิธีงานศพครับ ไม่ได้รับเคสผู้เสียชีวิตจากโรงพยาบาลไปทำพิธีมาตั้งแต่แรกครับ แต่ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตมีมากขึ้น และบุคลการทางการแพทย์ก็ทำงานกันหนักมากครับ ทางพวกเราจึงเพิ่มบริการขนย้ายศพผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ขึ้นมาตั้งแต่ช่วงการระบาดช่วงที่ 3 ครับ มีญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตติดต่สอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ยิ่งจำนวนต่อวันนั้นก็มากจนน่าตกใจ จึงทำให้การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก การผลิตโลงศพก็ต้องรีบเร่งผลิตมากขึ้นเป็นเท่าตัว นั่นหมายถึง พนักงานก็ต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อผลิตโลงศพให้เพียงพอต่อความต้องการ รวมทั้งปัญหาการจัดการคิวในการเผาศพผู้เสียชีวิตด้วย แต่ละวัดก็จะคิวเต็มกันเสียส่วนใหญ่ด้วยคิวการเผาศพที่ต้องทำอย่างระมัดระวังในทุกกระบวนการ ผมและทีมงานเองก็ต้องระมัดระวังในทุกขั้นตอนเช่นกันครับ ตลอดการทำงานจะต้องสวมชุด PPE ป้องกันอย่างรัดกุม และยังมีอุปกรณ์อีกหลายอย่างเช่น หน้ากาก N95 ถุงมือ Face Shield เมื่อเราไปถึงโรงพยาบาลก็จะต้องจัดการกับร่างผู้เสียชีวิต แพ็คศพอย่างแน่นหนา และเมื่อบรรจุลงโลงศพแล้วจะไม่สามารถเปิดออกมาได้ และนำส่งไปยังวัดเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาภายใน 24 ชั่วโมง การทำหน้าที่นี้สำหรับผม กลัวทั้งโรคติดต่อ และกลัวในสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากมาย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สำคัญมากๆ หน้าที่ที่ผมทำอยู่นี้ เรียกว่าเป็นจิตอาสาในการช่วยเหลือภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และยังเป็นการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ทำหน้าที่แทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เขาต้องมีระยะห่างตรงนี้ครับ ผมและทีมงานทำด้วยความเต็มใจ เราพร้อมที่จะดูแลลูกค้าด้วยความเต็มใจ ในเมื่อมีคนหลายคนเดือดร้อน หากช่วยได้ก็ต้องช่วยกันไปครับ”

 

 

 

            บริษัท สุริยาคอฟฟิน (Suriya Coffin) ให้บริการและดูแลทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ เซฟเล่าว่า สิ่งที่เรียนจึงยังคงได้หยิบออกมาใช้เรื่อยๆ ลูกค้าก็จะมีหลากหลายศาสนา ทั้งรูปแบบพิธีแบบไทย จีน คริสต์ จึงทำให้ต้องติดต่อกับลูกค้าที่เป็นต่างชาติด้วย

            “สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่าอยากจะทำอาชีพอะไร เรียนอะไร อยากให้ค่อยๆ ตัดสินใจครับ ลองทำสิ่งที่เราได้รับโอกาสมาก่อน และค่อยๆ ดูว่าเราสนุก เราเต็มที่กับสิ่งเหล่านั้นได้มากน้อยแค่ไหน ท้ายที่สุดคนเราอาจจะต้องลองอะไรมากมายก่อนจะรู้จักตัวเองมากขึ้น ยิ่งปัจจุบันมีสาขาวิชา มีคณะให้เลือกมากมาย ดังนั้นการได้ศึกษาข้อมูลและลองมุ่งมั่นไปทีละนิดละหน่อยก็จะนับเป็นโอกาสที่ดีครับ อย่างเช่นผมเลือกเรียนที่ ม.รังสิต แม้จะมุ่งมั่นรู้แล้วว่าตัวเองต้องการจะเรียนอะไร แต่สิ่งแปลกใหม่ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้นั่นก็คือ สังคมใหม่ๆ เพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องและอาจารย์ ที่ตอกย้ำได้ว่าชีวิตนี้มันมีหลายมุมมอง ผมเองโชคดี ได้เรียนในสิ่งที่ชอบ และยังได้มีสังคมดีๆ  มี Connection ดีๆ ด้วย”

 

 

 

 

            สุดท้ายนี้ ผมอยากขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน โดยเฉพาะพี่ๆ หมอ พยาบาล ทีมบุคลากรทางการแพทย์ นักรบชุดขาว และทุกๆ หน่วยงานที่ยังคงลุยต่อสู้กับสถานการณ์อันโหดร้ายนี้ครับ ขอให้พวกเราผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัยและไม่มีการสูญเสียที่มากไปกว่านี้

 

"

ผู้จัดทำ

บทความที่คุณอาจสนใจ