นักศึกษาสาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส วิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม Le Congrès de la Jeunesse Francophone การประชุมสำหรับผู้นำเยาวชนผู้พูดภาษาฝรั่งเศส โดยมีตัวแทนเยาวชนได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมกว่า 40 ประเทศ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศอียิปต์

นางสาวกมลทิพย์ ชูนวลศรี (เบลล่า) นักศึกษาชั้นปีที่ 3  สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส วิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนเป็นประธานชมรม Club francophone de Rangsit และตอนนี้ยังเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ ประเทศเวียดนาม ด้วยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยรังสิตในด้านต่างๆ จึงทำให้นักศึกษาได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์การใช้ภาษาที่ร่ำเรียนมาด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมทั้งในและต่างประเทศมากมาย

“เบลเป็นประธานของคลับภาษาฝรั่งเศสที่มหาวิทยาลัยค่ะ คลับหรือชมรมนี้มหาวิทยาลัยรังสิตของเราได้รับการสนับสนุนจากองค์กร L’Agence universitaire de la Francophonie (L’AUF) โดยได้มีกิจกรรมต่างๆ จัดขึ้นต่อเนื่องมากมาย ครั้งนี้ก็เช่นกันค่ะ เบลได้เป็นตัวแทนของคลับ และของประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมสำหรับผู้นำเยาวชนผู้พูดภาษาฝรั่งเศส ในการเดินทางไปครั้งนี้ทางองค์กร AUF สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เบลและมหาวิทยาลัย สำหรับเบลเองนั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและทำอย่างเต็มความสามารถ การเตรียมตัวนั้นเรียกว่าค่อนข้างเยอะค่ะ จะเป็นเรื่องของเอกสารวีซ่า และเอกสารแนบต่างๆ ที่เยอะมากค่ะ นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและประเทศไทยของเรา เพื่อจะได้นำเสนอให้ทุกคนได้รู้จักประเทศของเรามากขึ้น การเดินทางครั้งนี้ เบลเดินทางคนเดียว และเป็นการไปประเทศอียิปต์ที่ค่อนข้างไกล จึงต้องเตรียมข้อมูลด้านภาษา วัฒนธรรม และเรื่องข้อสังเกตทางศาสนาด้วยค่ะ ข้อนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากอาจารย์สาขาวิชาอิสลามศึกษา ของ ม.รังสิต ช่วยแนะนำและเตรียมตัวค่ะ นอกนั้นที่ต้องเตรียมก็เป็นเรื่องของภาพลักษณ์ การแต่งกาย การแสดงที่จะนำไปแสดงด้วยค่ะ เมื่อถึงวันจริงค่อนข้างตื่นเต้น และรู้สึกประหม่าแต่บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความอบอุ่น ทุกคนมาด้วยใจรักภาษา และต่างชื่นชมวัฒนธรรมของประเทศอื่นๆ เรียกได้ว่ามีแต่เพื่อนๆ และคนที่เปิดกว้างมารวมตัวกัน สิ่งที่คลับของเราคาดหวังจากการเข้าร่วมครั้งนี้คือ การได้สร้างความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเผยแพร่วัฒนธรรมของประเทศไทย นำผ้าไหมไทยไปสวมใส่ในงาน นำเสนอการไหว้แบบไทย รำไทย ซึ่งสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับชาวต่างชาติได้มากทีเดียว แหละนี่ ทำให้เบลรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้น เราได้เป็นตนไทยเพียงคนเดยว และได้นำเสนอความเป็นไทยผ่านโอกาสครั้งนี้ ตื้นตันที่สุดค่ะ หลังจากกลับมาแล้วก็จะมีเพื่อนๆ ที่ได้แลกเปลี่ยนการติดต่อเอาไว้ ก็ยังทักมาชื่นชม พร้อมส่งรูปมาให้ด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นความทรงจำที่ลืมไม่ได้และจะไม่ลืมเลยค่ะ การเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เป็นระยะเวลาเพียงสั้นๆ แต่สิ่งที่ได้รับนั้นมากยิ่งกว่าการได้อ่านจากหนังสือหลายๆ เล่ม แม้ว่าต้นทุนของการเตรียมตัวเบลจะต้องศึกษาจากหนังสือ จากผู้คนไปมากเท่าใด แต่เมื่อได้แสดงทักษะต่างๆ ออกไปแล้ว มันกลับเป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่มากๆ และยังรู้สึกว่าตัวเราเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย คิดอะไรแบบตระหนักมากขึ้น มองอะไรชัดเจนมากขึ้น และยังมองในหลายด้านหลายมุมด้วยค่ะ อยากขอบคุณอาจารย์ วิทยาลัย และมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้ผลักดัน และส่งเสริมโอกาสและกิจกรรมดีๆ ให้กับนักศึกษาค่ะ”