‘มนตรี บุญสัตย์’ ศิษย์เก่าสาขาวิชาคอนเทนต์และสื่อดิจิทัล ผู้ก่อตั้ง ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง และ Running Insider ผู้สร้างคอนเทนต์จากความรัก และการทำงานที่ไม่ต้องสู้กับใครนอกจากใจของตัวเอง ความผิดหวังอาจทำให้คนย่อท้อ แต่ บุ๊ย-มนตรี บุญสัตย์ เปลี่ยนความผิดหวังที่เกิดขึ้น แล้วก้าวขึ้นมาใหม่ โดยหยิบเอาความสนใจ ‘การวิ่ง’ เป็นจุดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้จากการเรียนและการทำงาน ทั้งการทำงานด้านนิตยสาร การเป็นผู้สื่อข่าวมาหลายปี ความรัก และความสนใจในเรื่องของการวิ่งถูกถ่ายทอดผ่านคอนเทนต์ลงบนแฟนเพจ เพื่อเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร เพื่อนๆพี่น้องๆ ที่อยู่ในวงของการวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารเรื่องของการวิ่งเพื่อสุขภาพ การวิ่งมาราธอน และเรื่องราวเกี่ยวกับแรงบันดาลใจ ข่าวสารต่างประเทศ

จุดเริ่มต้นในการทำเพจของบุ๊ยเองก็เริ่มจากการที่ได้ใช้ความรู้จากการเรียนด้านคอนเทนต์และสื่อดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ความเป็นนักสื่อสาร ที่สนุกกับการสื่อสารอยู่แล้วนั้นให้เป็นประโยชน์ ยิ่งปัจจุบันโลกของโซเชียลมีเดียเองก็เป็นโลกที่เปิดพื้นที่ให้กับเราได้สื่อสารในเรื่องต่างๆ บุ๊ยก็ได้ยกนำเรื่องที่รู้สึกใกล้ชิด ผูกพัน และเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ อย่างการวิ่งมาสื่อสาร ซึ่งตัวเราเองนั้นจำเป็นต้องมีประสบการณ์ที่ดี มีความรู้ ที่น่าจะมีประโยชน์ต่อคนอื่น เพราะถ้าเราสื่อสารข้อมูลที่อาจจะไม่ดี หรือรู้ไม่จริง ไม่มีความลึกซึ่งในบางสิ่งบางอย่าง ก็มีโอกาสที่ข้อมูลของเราจะโดนเชื่อ และโดนแชร์ อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี นั้นเป็นสิ่งที่บุ๊ยเองก็ให้ความสำคัญและเน้นย้ำอย่างมากในการทำงาน
"ความที่ผมมีประสบการณ์ในการวิ่งมาราธอน ผ่านระยะการวิ่งที่มากกว่ามาราธอน และทุกๆวันก็พยายามซ้อมวิ่ง เพื่อนฝูง พี่น้องที่คบหากัน ก็เป็นเหมือนว่าสามร้อยหกสิบหน้าวันที่อยู่กับการวิ่ง ดังนั้นตัวเรากีข้อมูลที่คิดว่ามากพอ และเราก็ได้สื่อสารเรื่องที่เราชอบกับคนที่ชอบเหมือนกัน"

เพจ ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง และ Running Insider แม้ว่าสองเพจดังกล่าวจะเป็นเพจที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งเหมือนกัน แต่หากเข้าไปสัมผัสกับทเพจทั้งสองแล้ว จะพบเอกลักษณ์ของเพจต่างกันไป ซึ่งเรื่องนี้บุ๊ยก็ได้ให้คำตอบกับเราว่า เพจ ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง เป็นการสื่อสารในลักษณะขององค์การ ที่เป็นช่องทาง สื่อกลางของนักวิ่ง ที่ไม่ว่าอยากจะหาข้อมูล หาความรู้ เกี่ยวกับการวิ่ง อยากจะไปวิ่ง หรือติดตามข่าวสารเรื่องการวิ่ง ก็สามารถติดตามที่เพจนี้ได้ ส่วนเพจ Running Insider จะมีลักษณะที่เป็นตัวตนของตัวเอง ที่มีความบ้าคลั่งการวิ่ง และสนุกที่ได้พูดถึงคนวิ่ง 42 กิโล การวิ่งมาราธอนหลายคนบอกว่าเป็นกีฬาที่น่าเบื่อ เป็นกีฬาที่ไม่มีแต้ม ไม่มีการทำประตู นานๆถึงจะแซงกันสักคน แต่สำหรับผมแล้ว การวิ่งมาราธอนเป็นกีฬา ที่มีแง่มุมในทุกเมตรที่วิ่งไปมีการต่อสู้ มีกลยุทธ์ต่างๆ เพจ Running Insider เองจึงสนใจในการเจาะลึกเรื่องการวิ่งของนักวิ่งอีลิท ซึ่งคล้ายกับเป็นการเขียนจากความสนใจของเรา จะไม่กฎเกณฑ์อะไรกับเพจ Running Insider แต่ว่าทุกเรื่องที่เขียนเหมือนเราเล่าให้เพื่อนฟัง ส่วนเพจ Running Insider ก็เป็นเหมือนการเติมเต็มความฝันของบุ๊ยที่ต้องการไปเป็นผู้รายงาน เกาะติดสถานการณ์ไม่ว่าจะในรูปแบบลักษณะสื่อมวลชนทางการ หรือสื่อภาคประชาชน โดยใช้วิชาความรู้ความสามารถ ความสนใจที่เรียนมาในเเง่นิเทศศาสตร์ ในงานวิ่ง ‘โตเกียว2020’ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าอีกด้วย ทุกๆวันก็ไม่ต่างจากการฝึกซ้อม นักกีฬาก็อาจจะฝึกซ้อมความพร้อมในด้านร่างกาย แต่การซ้อมสำหรับบุ๊ยก็คือ การหาข้อมูล เเบ่งปันข้อมูล เเละถ่ายทอดข้อมูลนั่นเอง

บุ๊ยมีหลักยึดจากปรัชญาของชาวญี่ปุ่นที่เรียกว่า ‘อิคิไก’ ซึ่งคำพูดที่ทำให้บุ๊ยเกิดความรู้สึกประทับใจนั้น ได้กล่าวไว้ว่า ‘การที่เราทำมันเป็นสิ่งที่เราถนัด เป็นสิ่งทำเเล้วมีประโยชน์กับคนอื่น มีประโยชน์กับโลก เเล้วเราเลี้ยงตัวเองได้’ ซึ่งจากปรัชญาดังกล่าว ก็สอดคล้องกับการทำงานของบุ๊ยที่ได้นำ สิ่งที่ชอบ และงานอดิเรก อย่างการวิ่ง มาเปลี่ยนกลายเป็นงานที่อยู่ในชีวิตจริง นั้นก็ไม่ต่างจากการได้ทำงานที่ถนัด ยิ่งไปกว่าการทำงานที่ถนัดแล้ว คือการทำงานของเรานั้นมีที่คนเข้าใจ เเละสนับสนุน จึงทำให้ทุกๆวันในการตื่นมาทำงาน ไม่มีวันไหนที่เบื่อ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการเดิมพันที่สูงขึ้น ก็คือ การรับผิดชอบต่องานก็ต้องเต็มที่ โดยเฉพาะการรับผิดชอบต่อบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับงานนั้นๆ
"ผมเขียนจากความสนใจ ทุกวันที่จะเขียนเรื่องไหน ก็เป็นเรื่องที่วันนั้น เราตื่นขึ้นมาเราสนใจเรื่องนี้ ถ้าเราไม่เขียนไม่ได้ เราจะพลาดไปนะ มันต้องเขียน"

บุ๊ยยังกล่าวอีกว่า ทุกคนมีคอนเทนต์อยู่ในตัวเอง ไม่ว่าจะทำงานอะไร ประกอบอาชีพอะไร คนๆนั้นไม่มากก็น้อยที่จะมีคอนเทนต์ เรื่องที่ชอบ เรื่องที่ชอบบอกเล่า เรื่องที่เป็นตัวจริง ดังนั้นความเป็น story teller ก็จะเกิดจากสิ่งนี้ เพียงแต่ว่าปัจจุบันมีเครื่องไม้เครื่องมีเยอะ มีแพลตฟอร์ม มีโซเชียลมีเดียที่เราสามารถนำเสนอเรื่องราวออกไปได้มาก ในความง่ายก็มีเรื่องท้าทายว่าเราทำได้นานเเค่ไหน ถ้าเกิดเรื่องนี้ไม่มีคนมากดไลค์ กดเเชร์เลย ซึ่งแรงขับในการทำคอนเทนต์มาจจากที่สิ่งที่เราชอบจริงๆ

ทุกวันนี้สิ่งต่างๆมาอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง หรือเงินทอง แต่ว่าในความเป็นจริง มันไม่ใช่ทุกคนจะไปถึงตรงนั้นได้ ดังนั้นหัวใจสำคัญของการทำคอนเทนต์หรือค้นหาตัวเอง ทุกครั้งที่ตื่นมา มีเรื่องอะไรบ้างที่คุณคิดถึงมันก่อน แล้วคุณนำเรื่องนั้นมาผันเป็นคอนเทนต์ได้อย่างไร พยายามทำความเข้าใจแพลตฟอร์มแต่ละแพลตฟอร์ม คล้ายๆว่าตัวเราเป็นสาร แพลตฟอร์มคือภาชนะ ที่จะลำเลียงไปยังผู้อ่าน ผู้ชมอย่างไร
เรื่องราวสุดท้ายบุ๊ยได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ‘ถ้าใครผิดหวังก่อนจะได้เปรียบ’ นั้นหมายความว่า น้องๆที่กำลังสับสนกับทางเลือกในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น จบไปจะทำงานอะไรดี จะเป็นอะไรดี ต่างมีตัวเลือกให้เลือกเต็มไปหมด แต่สิ่งสำคัญก็คือการตัดตัวเลือกให้ตัวเอง ให้ลองดูว่าถ้าเราทำสิ่งนี้ เราจะทำสิ่งนั้นได้นานแค่ไหน ความอดทนเองก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเริ่มต้นทำงานหรือเริ่มต้นค้นหาตัวเอง เรามีเวลาให้ผิดหวัง ลองผิดลองถูก เมื่อถึงจุดหนึ่งมันจะมีบางสิ่งบางอย่างจากการเรียนรู้ ให้คุณได้ข้ามไป การประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องที่เกิดในชั่วข้ามคืน ถ้าเราทำมุ่งมั่นจริงจัง เราจะพบบางอย่างจากการทำงานด้วย

"