จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่ผู้ปกครองและคนในหมู่บ้านมีความเชื่อว่า การที่ลูกหลานได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐบาลนั้น คือ ความสำเร็จ เขาจึงเลือกเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยของรัฐตามเพื่อนๆ พอเข้ามาเรียนก็หลงแสงสีและเตลิดเปิดเปิงไปไกลมาก จึงทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้เรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ อาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตนำพาให้เขาได้มีโอกาสมางานลอยกระทงหลงวันที่มหาวิทยาลัยรังสิต และพบกับความรักครั้งแรกที่นี่
        หลังจากนั้นเขาก็ได้รู้จักวิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งมีอยู่ 2 อย่างที่ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรังสิต คือ 1.หลักสูตรที่ตอบโจทย์ และ 2.เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเรียนการสอน ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นคุณพ่อ-คุณแม่ของเขาไม่มีความมั่นใจเลยว่า ลูกของพวกเขาจะกลับมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้
        นายจิรวัฒน์ กรัณย์วิทยาการ (ตี๋) ศิษย์เก่าสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยรังสิต คือบุคคลที่เรากำลังพูดถึง

        จากเด็กซิ่วมาเป็น Google Developer Expert - Firebase / Mobile App Development Team Lead บริษัท Ascend Groupคนแรกของประเทศไทย และคนที่สองของเอเชีย พูดถึงตนเองในมุมที่ใครหลายคนไม่เคยรู้

เราต้องเป็นน้ำครึ่งแก้ว
        ชีวิตตลอดระยะเวลา 4 ปี ในมหาวิทยาลัยรังสิต ตี๋ต้องพิสูจน์ตัวเองเปลี่ยนความกดดันมาเป็นแรงบันดาลใจและต้องทำให้ได้ ดังนั้น ชีวิตในการเรียนของตี๋คือ เป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมจะเติมเต็มความรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่อีโก้ว่าตัวเองเก่งแล้ว ทั้งๆ ที่ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
        ชีวิตในมหาวิทยาลัยของตี๋แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.ด้วยความที่ตนเองไม่ได้เป็นหนอนหนังสือ กลับห้องไปไม่อ่านหนังสือ ดังนั้น เวลาเรียนจึงตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่โดยถือคติที่ว่า “เด็กเรียนนั่งหน้า เด็กซ่านั่งหลัง” ทำกิจรรมของคณะและมหาวิทยาลัย เล่นกีฬา มีแฟน ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ บ้างเป็นครั้งคราว
        2.Soft Skill ตอนเรียนตี๋ได้เกรดค่อนข้างดี เวลาเรียนหรือสอบเขามักจะติวให้เพื่อนๆ เสนอ ดังนั้นตี๋จึงได้รับเลือกให้เป็นประธานรุ่นของวิทยาลัยไอซีที ซึ่งเขาก็ไม่ลังเลที่จะคว้าโอกาสในการทำกิจกรรมทั้งของคณะและมหาวิทยาลัย
        3.การประกวด ตลอดระยะเวลาที่เรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งตี๋เรียนได้เกรดดีมาโดยตอลด แต่พอเรียนปี 3 ตี๋กลับอกหัก ความรักทำให้ต้องตัดสินในเลือกอีกครั้ง คือ เลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไปหรือเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น ซึ่งตี๋เลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น โดยเดินไปตามคณะต่างๆ ทั้งคณะบริหารธุรกิจ คณะศิลปะและการออกแบบ วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อดูประกาศตามบอร์ดต่างๆ เดินหน้าส่งผลงานเข้าร่วมประกวด เวทีไหนที่สามารถร่วมได้ร่วมประกวดหมด ซึ่งผลที่ได้รับคือ ตกรอบทุกรายการ

ทำฝันให้เป็นจริง
        ผลของการตกรอบเนื่องมากจากไฟล์ที่ใช้ในการนำเสนอมีตัวหนังสือเยอะแยะเต็มไปหมด บวกกับเวลานำเสนอก็จะมีโพยอยู่ในมือ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นคณะกรรมการสามารถอ่านเองได้ แต่ทุกครั้งที่ตกรอบตี๋ก็จะพัฒนาตนเอง โดยการดูคนที่ผ่านเข้ารอบว่าเขานำเสนอผลงานกันอย่างไร จึงเริ่มปรับตัวไปเรื่อยๆ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าสักวันเขาต้องทำได้ และแล้วฝันของเขาก็เป็นจริง เขาสามารถคว้ารางวัล popular vote จากการประกวดเว็บไซต์ศูนย์กลางการเรียนรู้ของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ ใบแรกมาให้ตนเองและสร้างชื่อเสียงให้แก่วิทยาลัยไอซีทีได้สำเร็จ

“โอกาสอย่าใช้ให้เปลืองถ้าได้มาแล้ว”

        ชีวิต 4 ปีของการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต เขาสัมผัสได้ว่า อาจารย์และนักศึกษาที่นี่มีความผูกพันใกล้ชิดกันมากกว่าสถาบันอื่นๆ น้องๆ สามารถเข้าพบอาจารย์เพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องต่างๆ นอกเหนือจากเรื่องเรียนได้เสมอ และมหาวิทยาลัยยังให้โอกาสที่ยิ่งใหญ่มากมายแก่นักศึกษา อยู่ที่ว่าเราจะคว้าโอกาสเหล่านั้นไว้หรือไม่ เช่น ตอนเรียนปี 2 ตี๋คว้าทุนการศึกษาไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศไต้หวัน (ตอนเรียนมัธยมพยายามสอบ AFS อยู่หลายครั้งแต่ไม่ติด) ซึ่งก็เป็นหนึ่งในความฝันที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศให้ได้
        “ที่ ม.รังสิต คุณสามารถเข้าถึงโอกาสต่างๆ ได้อย่างมากมาย ดังนั้น โอกาสบางอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอาจผ่านมาแค่ครั้งเดียว ดังนั้นขอให้รีบคว้ามันเอาไว้ หรือถ้าโอกาสบางอย่างไม่ได้เข้ามาหาเรา แต่เราก็ต้องรู้จักเข้าไปหาโอกาส”

กว่าจะได้เป็น Google Developer Expert ด้าน Firebase คนแรกของประเทศไทย
        Google Developer Expert (GDE) เป็นโครงการที่ Google จัดขึ้นมาเพื่อตามหาผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ของ Google จากทั่วโลก โดยแบ่งออกเป็น 4 หมวด ดังนี้
        1.Technology เช่น Android, Firebase, Web Technologies
        2.Marketing เช่น Branding, Distribution, Monetization
        3.UX/ UI เช่น Interaction Design, Visual Design, User Research
        4.Product Strategy
        โดย GDE จะทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้ในสาขาที่ตนเองเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยาย การให้คำแนะนำแก่นักพัฒนา การเขียนบทความ วิดีโอ การเขียนตัวอย่างโค้ด และการช่วยผลักดัน Community เป็นต้น ดังนั้น ผู้ที่จะมาเป็น GDE ได้นั้นจึงต้องเป็นพนักงานของ Google หรือผู้ที่มีสิทธิ์จากทีม Google Developers เสนอชื่อเพื่อเข้ารับการประเมินเท่านั้น (ไม่สามารถสมัครด้วยตนเอง) ซึ่งผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ค้นคว้า ทดลองในสิ่งที่ตนเองสนใจจนเกิดความเชี่ยวชาญ จากนั้นจึงแบ่งปันความรู้สู่สังคมตามช่องทางต่างๆ ข้างต้น ซึ่งหลังจากผ่านการประเมินแล้วเราก็จะได้อยู่บนหน้าเว็บไซต์ ได้มีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google ได้ทำงานร่วมกับทีม Google ในบางโอกาส ได้รับเชิญไปร่วมงานต่างๆ เช่น Google I/O, GDE Summit และที่สำคัญคือ ได้พบเจอผู้คนที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ จากทั่วประเทศ เพื่อนำแนวคิดของแต่ละคนมาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเราเอง

ก้าวสำคัญสู่เวที Google Developer Expert
        ปี ค.ศ.2014 Google Developer Group Thailand (GDG Thailand) จัดกิจกรรม Android Developer Camp ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) ตี๋ได้รับเชิญให้ไปบรรยาเรื่อง Google Cloud Messaging (GCM) ภายในงานได้พบเจอกูรูมากมาย หลายคนที่เจอในงานวันนั้นทำให้กลายมาเป็นเพื่อนกันจนถึงทุกวันนี้ และจากนั้นเป็นต้นมาตี๋ได้มีโอกาสไปช่วยงาน GDG Thailand จนถึงปัจจุบัน
        เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ.2016 ที่งาน Google I/O มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีชื่อว่า Firebase ซึ่งหลังจากงาน Google I/O จบไป เชื่อว่านักพัฒนาหลายคนต่างให้ความสนใจ Firebase Cloud Messaging (FCM) กันมาก เพราะ Parse ซึ่งเป็น Cloud Messaging ของ Facebook ได้ปิดตัวลง ตี๋ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สนใจและทดลองเล่น FCM แต่ไม่ใช่เพราะ Parse เท่านั้น เพราะ GCM แนะนำให้มาใช้ Firebase นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้ทำความรู้จักกับ Firebase

        จากนั้นประมาณ 1 เดือนถัดมา GDG Thailand จัดงานใหญ่ประจำปี Google I/O 2016 Extend ดังนั้น จึงเป็นครั้งแรกที่ตี๋ขึ้นเวทีแชร์ประสบการณ์จากการเรื่อง Firebase เพราะส่วนตัวรู้สึกหลงไหลในความสามารถของ Firebase ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองผลิตภัณฑ์นี้แล้วทำให้ตี๋เรียนรู้การใช้งานอย่างจริงๆ และเริ่มต้นเขียน blog นอกจากนั้นก็สร้าง Code Sample ใน GitHub ถามตอบใน Stack Overflow ระหว่างนั้นจึงได้รับคำแนะนำจากกูรูให้ส่งเมล์แนะนำตัวพร้อมใบสมัครเข้าร่วมโครงการ GDE เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน จึงได้รับเมล์นัดสัมภาษณ์รอบแรกกับ Firebase GDE ซึ่งตี๋ได้สัมภาษณ์กับ Firebase GDE ที่อเมริกา ทาง Google Hangouts ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
        วันถัดมาตี๋ได้รับอีเมล์ แสดงความยินดีว่าคุณได้ไปต่อ ให้รอการติดต่อกลับมาอีกครั้ง ระหว่างนั้นตี๋จึงเรียนรู้เพิ่มเติมในหลายๆ เรื่อง และได้พบกับผู้บริหาร iSpacebar ซึ่งเป็น Training Center ชวนให้เปิดคอร์ส สอน Firebase ตี๋จึงเปิดสอนและผู้เรียนคอร์สนี้ได้ชวนให้สร้างเพจ Firebase Thailand ซึ่งในเวลาต่อมา Firebase Thailand ก็มีทีมงานมาช่วย Moderation อีกหลายคน และประมาณเดือนธันวาคมตี๋ได้รับอีเมล์การสัมภาษณ์รอบ 2 ซึ่งรอบนี้ตี๋ต้องสัมภาษณ์กับ Engineer ในทีม Firebase ที่เป็น Top Developer ใน Stack Overflow หลังการสัมภาษณ์คณะกรรมการแนะนำให้ตี๋พัฒนา Applicatin 1 ตัว โดยให้เสนอ Proposal เข้ามาก่อน ซึ่งเขายกตัวอย่างคนที่สอบผ่านว่าทำอะไรกันมาบ้าง (ปกติคนที่สอบ GDE จบรอบนี้จะรู้ผลเลย)

สู้ต่อไปเพื่อให้ถึงเส้นชัย
        หลังจากที่ได้รับโจทย์มาตี๋ได้เสนอ Proposal กลับไป 3 App ดังนี้
        1.InHouse Store: App store ที่ใช้ในองค์กร
        2.Auction: แอพประมูลสินค้าผ่านวิดีโอ Broadcast
        3.Brown Bag: แอพบริหารจัดการงาน Meetup
        ซึ่งบาง App ได้ทำไว้แล้ว แต่ปรับใหม่โดยใช้ Firebase และเดือนกุมภาพันธ์การสัมภาษณ์รอบสุดท้ายก็มาถึง ซึ่งรอบนี้ตี๋ต้องสัมภาษณ์กับคณะกรรมการ 5 คน แต่วันที่สัมภาษณ์จริงกรรมการมาไม่ครบจึงลดความตึงเครียดลงได้บ้าง ตี๋เริ่มต้นการสัมภาษณ์ด้วยการเปิด Slide ที่บอกถึงที่มาในการพัฒนา App ตามด้วยการ Demo การใช้งาน App แล้วปิดด้วยการอธิบายโค้ดที่เขียน หลังจากนำเสนอเสร็จคำถามจากคณะกรรมการก็หลั่งไหลมาไม่ขาดสายรวมถึงการแนะนำวิธีการที่ดีกว่า แต่หลังจากกลับมาตี๋มีคำถามค้างคาใจในสิ่งที่คณะกรรมการคอมเมนต์ นั่นคือการเขียน Security Rules จึงจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบใช้เวลา 2 ชม. ในการพัฒนา App ให้ครอบคลุมคอมเมนต์คณะกรรมการ จากนั้นจึงส่งอีเมล์กลับไปให้คณะกรรมการอีกรอบ
        หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ตี๋ได้รับอีเมล์จากทีม Experts ส่งมาแจ้งว่า ตี๋รับคัดเลือกให้เป็น Google Developer Expert ด้าน Firebase คนแรกของประเทศไทย

“จากนี้ผมก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะเรียนรู้และมาแบ่งปันสิ่งใหม่ๆ จะเป็นกระบอกเสียงให้แก่นักพัฒนาไทยไปสู่ทีม Firebase และผลักดัน Community ของ Firebase ในประเทศไทยต่อไป”

ประสบการณ์และรางวัลสมัยที่ศึกษาอยู่ที่ ม.รังสิต
- เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- นักศึกษาแลกเปลี่ยนระหว่าง ม.รังสิต และ Ming Chuan University ประเทศไต้หวัน
- ประธานนักศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- รองประธานเยาวชนผู้ดูแลเว็บไทย ภายใต้สมาคมผู้ดูแลเว็บไทยรุ่นที่ 5
- รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ โครงการประกวดเว็บไซต์ศูนย์กลางการเรียนรู้ของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ
- รางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยม ผลงาน Application ค้นหาสินค้า OTOP ม.รังสิต
- รางวัลชมเชยการประกวด Application บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ Samarth Innovation Award
- Road Show กับมหาวิทยาลัยรังสิตทุกปี

ปัจจุบัน
- ตำแหน่ง Google Developer Expert ด้าน Firebase คนแรกของประเทศไทย
- Mobile App Development Team Lead บริษัท Ascend Group
- ผู้ก่อตั้งแฟนเพจ Firebase Thailand ชุมชนนักพัฒนา Firebase ในประเทศไทย
- ผลงานแอพพลิเคชัน TrueMoney Wallet, Makro, CP Surprise, Sanook!, TrueYou, ไก่ย่างห้าดาว

ประสบการณ์ที่ผ่านมา
- อาจารย์พิเศษวิชา Mobile Application Programming สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- พนักงานแลกเปลี่ยนระหว่างบริษัท สนุกออนไลน์ จำกัด และ บริษัท Multi Choice (Pty) Ltd. ประเทศแอฟริกาใต้
- Assistant IT Manager บริษัท สนุกออนไลน์ จำกัด (Sanook.com)
- ได้รับรางวัลคนสร้างแรงบันดาลใจ ในงานประปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2560 มหาวิทยาลัยรังสิต