“ส่วนตัวแล้วการเรียนต่อ...เป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับผม ความตั้งใจและเป้าหมายของการเรียนต่อนั้นเพียงเพื่อต้องการเอาชนะใจพัฒนาการบริหารงาน พัฒนาด้านความคิดของตัวผมเอง คือ การนำวิชาทางรัฐประศาสนศาสตร์มาต่อยอด และประยุกต์เข้ากับการบริหารจัดการต่างๆ ในชีวิต ที่สำคัญสามารถนำความรู้ที่เรียนมาไปใช้จริงได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด”
นายปิยรัช อยู่รักชาติ ศิษย์เก่าปริญญาตรี สาขาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ ต่อด้วยปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต และกำลังศึกษาดุษฎีบัณฑิต คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ตัดสินใจเรียนต่อ ป.โท และเอกด้วยความที่เป็นคนสนใจด้านสังคม และมีความคิดอยากจะไปพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง หรือบ้านเกิดที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน ที่สำคัญอย่างก้าวผ่านความกลัว กลัวว่าจะเรียนไม่ได้เพราะเราไม่เก่ง ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำสถาบัน RSU General Education มหาวิทยาลัยรังสิต รับผิดชอบสอนรายวิชา RSU111 สังคมธรรมาธิปไตย, RSU130 ศาสตร์แห่งรัก, RSU150 การจัดการเชิงสร้างสรรค์ ดูแลวางแผนจัดรายวิชา ประมวลผลข้อมูลงานหลักสูตรหมวดวิชาศึกษาทั่วไป รวมถึงการจัดการเรียนการสอนงานศูนย์เรียนรู้ One Stop Service และออกแบบกิจกรรมต่างๆ ภายในสถาบัน
“ด้วยอาชีพการงานที่อยู่ในวงการการศึกษาที่ทำให้เราต้องพัฒนาคุณภาพตัวเองด้านความรู้เพื่อให้พร้อมที่จะนำไปใช้ประโยชน์ และมีบทบาทช่วยเหลือสังคมด้วยทำให้ต้องขวนขวายการเรียนรู้เพิ่มเติมอย่างมาก เมื่อเรียนจบ ป.โท สิ่งแรกที่เห็นกับตัวเองคือเรารู้จักเปลี่ยนแปลง ปรับตัวตัว เปิดรับกับความรู้ใหม่ รู้จักการแสวงหาความรู้ด้วยตัวเองเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต มีทักษะต่างๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในการแก้ปัญหา ถ้าถามว่าการเรียนต่อสร้างเราให้มีการพัฒนาตัวเองอย่างไร? ตรงบอกเลยว่าเป็นเกิดพัฒนาการในการนำความรู้ใหม่ๆ มาบริหารงาน ได้แชร์ความรู้จากอาจารย์ เพื่อน มาพัฒนาความคิดของตัวเอง และด้วยสาขาวิชาที่เรียนนั้นเป็นวิชาทางรัฐประศาสนศาสตร์ ซึ่งเอามาประยุกต์เข้ากับการบริหารการจัดการ และยังนำความรู้ที่เรียนมาไปใช้จริงได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดนั่นคือ ใช้ในการสอนนักศึกษา การทำงาน และการจัดกิจกรรมต่างๆ ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพราะจุดนี้เรามองว่าถ้าเราทำงานออกมาดี แล้วตัวเรารู้สึกภูมิใจในงานที่เราทำ ตัวเราก็ดีใจ ภูมิใจ ส่วนหากงานไหนยังไม่เป็นที่ยอมรับก็รับมาปรับปรุง และพัฒนาตนเองต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
หนึ่งสิ่งที่หลายคนอาจกังวลในการตัดสินใจเรียนต่อคือการเปลี่ยนบรรยากาศ จากเดิมที่การเรียน ป.ตรี จะเป็นแบบสนุกสนานเจอเพื่อนๆ มากมาย เฮฮาตามประสาตามวัย แต่ส่วน ป.โท ป.เอก จะเน้นหนักไปทางการเรียนที่เข้มข้น สำคัญคือได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนๆ ได้แนวคิดอะไรใหม่ๆ เพิ่มเสมอ ได้พบเจอได้เรียนรู้จากเหล่านักวิชาการและอาจารย์ที่มีคุณภาพ ฉะนั้นสำหรับคนที่จะเรียนต่อปริญญาโท-เอก หากมีโอกาสจงเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเอง ไม่ว่าจะเรียนปริญญาใบไหนก็ไม่ยากอย่างที่คิด แต่การใช้ชีวิตยากกว่า เพราะการจะใช้ชีวิตต้องมีสติ จงออกจากบ้านมา มาเจอบรรยากาศใหม่ๆ เจอเพื่อนใหม่ๆ จะทำให้เราอยากจะเรียนรู้มากขึ้น ฝึกความรับผิดชอบในการเรียน การงาน และทำหน้าที่ของเราเพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวเราและคนในครอบครัว
การศึกษาระดับปริญญาโทและเอกนั้น คือ บันไดแห่งการเริ่มต้นที่จะสร้าง จะผลิตอะไรใหม่ๆ ด้วยการเรียนที่ผ่านการทำวิจัย ลงมือทำอย่างทุ่มเท จริงจัง และให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของชีวิต เหมือนกับที่ว่าการจะเป็นเศรษฐีระดับโลก อาจไม่ได้เป็นไปได้ด้วยความบังเอิญ แต่มักเกิดจากการมีเป้าหมายในชีวิต และทำในสิ่งที่ตรงกับความถนัดของตนเอง ตลอดจนการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและต่อเนื่องตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ในสถาบันการศึกษา หรือการเรียนรู้ด้วยตนเอง หากอาชีพของเราสามารถสร้างคนให้มีศักยภาพที่จะประสบความสำเร็จในระดับโลกได้ไม่ว่าจะเป็นสาขาอาชีพใด เราจำเป็นต้องพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ของตัวเองเสียก่อน ก่อนที่จะพัฒนาอะไรให้กับสังคมต่อไป
"