จากเด็กกิจกรรม เรียนจบรัฐศาสตร์ หันหลังให้กับอาชีพราชการ แล้วผันตัวเองสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารรสแซ่บย่านม.รังสิต “กุ้งกระทะเหล็ก” ของ เกมส์-ยรรยง ชุมสังข์ ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านอาหาร “กุ้งกระทะเหล็ก”

“หลังจากผมเรียนจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ และปริญญาโทในหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ ม.รังสิต ได้ตั้งคำถามกับตัวงเองว่า ตลอดระยะเวลาในช่วงชีวิตนักศึกษาซึ่งทำกิจกรรมคณะและกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด ชอบติดตามข่าวสารบ้านเมือง ยังเคยคิดว่าจบไปอาจจะไปทำงานอยู่ในพรรคการเมือง หรือรับราชการ แต่เมื่อชีวิตโตขึ้น ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น มุมมองความคิดก็เปลี่ยนไป จึงมีแพลนว่าอยากจะทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งตอนที่เปิดร้านก็ทำควบคู่ไปกับการเรียนในระดับปริญญาโท หากถามว่าสิ่งที่เรียนมาได้นำมาใช้มั้ย ก็ตอบได้ว่าเรานำเรื่องแนวคิด การวางแผนและการจัดการอย่างเป็นระบบมาปรับใช้กับธุรกิจ โดยตัดสินใจเปิดร้านอาหาร ซึ่งก็เริ่มต้นมาจากการได้ทำในสิ่งที่ตนเองชอบ และผมเองเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว ซึ่งการตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจของเราครั้งนี้ เดิมพันด้วยความพยายามและใจสู้ล้วนๆ ผมต้องดูแลเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เรื่องของอาหารที่จะขาย ซื้อวัตถุดิบจากที่ไหน เราเน้นคุณภาพ ของบางอย่างต้นทุนสูง หาซื้อมาไกลเราก็เอา อย่างหอยนางรมเราก็รับมาจากสุราษฏร์ธานี กุ้งรับมาจากแปดริ้ว นอกจากเรื่องของรสชาติอาหาร คุณภาพอาหารก็เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญทุกขั้นตอนการผลิต”
จุดเริ่มต้นความแซ่บ...


วัตถุดิบทุกชนิดเราคัดเลือกอย่างดี
ยรรยง ชุมสังข์ ในฐานะเจ้าของร้านกุ้งกระทะเหล็ก กล่าวเกี่ยวกับแนวคิดในการเริ่มต้นเปิดร้านกุ้งกระทะเหล็กว่า ช่วงที่กำลังจะเปิดร้านมีโอกาสได้ไปทานกุ้งถัง ซึ่งช่วงนั้นกำลังเป็นที่นิยม เราเลยเอามาเป็นไอเดียตั้งต้น แล้วลองเอากุ้งตัวใหญ่ที่รับมาจากแปดริ้ว มาผัดกับน้ำซอสสูตรของเราดู ซึ่งความพิเศษของน้ำซอสเราคือใช้วัตถุดิบไทยทั้งหมด เช่น พริกเผา มันกุ้ง ลองชิมแล้วรสชาตอร่อยดี เราเลยคิดว่าน่าจะขายได้ ประกอบกับย่านม.รังสิตหาทานยาก คิดแล้วไม่ทำอาจจะเสียโอกาส เลยเริ่มจากขายผ่านช่องทางออนไลน์กัน หลังจากนั้นจึงตัดสินใจเปิดร้าน

“ความพิเศษของกุ้งกระทะเหล็ก ถ้าเป็นเมนูจะมีอยู่ 2 อย่าง คือ กุ้งกระทะเหล็ก กับ เมนูแอบยำ เป็นเมนูเด็ดประจำร้านซึ่งขายดีมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมมองว่า หัวใจหลักของร้านกุ้งกระทะเหล็ก คือ ความสด สะอาดของวัตถุดิบ และความใส่ใจ เพราะเราเป็นคนทำเองทุกจาน อาจจะมีบางอย่างที่สอนแม่ครัวไว้แล้ว เขาก็สามารถทำได้”


เมนูเด็ดขึ้นชื่อของร้านกุ้งกระทะเหล็ก
3 ปี กับความจัดจ้าน จนได้รับความนิยมของร้าน “กุ้งกระทะเหล็ก”
“เปิดร้านมาประมาณ 3 ปีแล้ว ถ้าถามว่ามันสำเร็จหรือยัง สำหรับผมก็ยังนะ แต่ธุรกิจก็ไม่ได้อยู่กับที่ มันก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ผมเริ่มต้นทำร้านอาหารด้วยทุนแสนกว่าบาท ด้วยเงินเก็บของตัวเองจากการเริ่มขายออนไลน์ก่อน เราไม่มีหน้าร้าน ใช้โพสขายในกลุ่มของนักศึกษาม.รังสิต ก็มีคนโทรมาสั่ง เราก็ไปส่งตามหอ ปรากฎว่าขายดี วันหนึ่งขายได้หลายตังค์ แต่มันเหนื่อยตรงที่ทำเสร็จแล้วเราต้องออกไปส่ง หลังจากทำแบบนั้นอยู่ประมาณครึ่งปี เก็บหอมรอบริบได้เงินมาส่วนหนึ่งก็ตัดสินใจเอาเงินที่มีอยู่ไปเช่าห้องเล็กๆ มี 5 โต๊ะ เปิดร้านอาหาร ทำมาประมาณปีกว่า ทุกอย่างก็ดีขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเข้าสู่ปีที่ 2 เราก็ขยับขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น มันก็เจริญงอกงามขึ้น จากร้านชั้นเดียวก็ต้องเปิดเพิ่มเป็น 2 ชั้น จากแค่ร้านกุ้งกระทะเหล็ก เราก็มีร้านแอบยำเพิ่มขึ้น ขายทุกสารพัดยำรสแซ่บในแบบฉบับของเรา กว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้ 3 ปีไม่ใช่เรื่องง่ายๆ กับการประกอบธุรกิจนี้ เราได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะ มันทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันท้าทายกับชีวิต เพราะว่าเราเอาปากท้องของเราเป็นเดิมพัน เราเหนื่อยได้แต่เราท้อแท้ไม่ได้ ถ้าเราทำงานประจำ ทำๆ ไปมันก็ได้เงินเท่าเดิม แต่ธุรกิจของเราเอง เราจะแค่ทำๆ ไปไม่ได้ เราต้องเต็มที่กับมัน”

เจ้าของร้านกุ้งกระทะเหล็ก เล่าเพิ่มเติมว่า ที่บอกว่าเราผ่านอะไรมาเยอะ ขึ้นชื่อว่าธุรกิจก็อาจจะมีช่วงที่สะดุดบ้าง ยิ่งทำเลร้านเราเป็นย่านมหา’ลัย ช่วงปิดเทอมก็อาจจะมีเงียบเหงาบ้าง เพราะนักศึกษาก็จะเป็นลูกค้าหลักของเรา จากรายได้วันละ 15,000 ก็เหลือ 3,000 ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายเราสูง ไหนจะค่าตึก ค่าลูกน้อง และอาหารทะเลก็เก็บได้ไม่นาน ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องแก้ วิธีแก้ก็คือ วางแผนล่วงหน้า เพราะทุกอย่างกำหนดมาไว้อยู่แล้วว่าเปิด-ปิดเทอมวันไหน ปิดกี่วัน ถ้าเราวางแผนดีๆ มันก็ไปได้ มันไม่ใช่แค่เรื่องของความเสี่ยงอย่างเดียว แต่มันคือเรื่องของการเรียนรู้จากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วย ว่าเราจะผ่านไปได้หรือไม่
ก้าวที่กล้าเดิน กับความสำเร็จที่ได้มา
“ถ้าถามว่าผมมีวันนี้ได้ ผมเริ่มเร็วหรือช้า ผมไม่ได้สนใจประเด็นนั้นเลย เพราะถือว่าผมได้เริ่มแล้ว สำหรับคนที่อยากจะเริ่มทำอะไร ผมอยากจะฝากว่าให้เราทำในสิ่งที่ชอบ และรักที่จะทำมัน อย่าไปสนใจว่าได้เงินเท่าไหร่ อย่าไปสนใจว่าเขาทำอันนี้ แล้วเราจะไปทำเขาตามเขาแล้วจะดีไหม อยากให้โฟกัสการที่เราได้มีโอกาสทำในสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราชอบ เพราะมันจะไปต่อยอดได้ ใครที่อยากจะลงทุนอะไรก็ลงเลย คิดแล้วลงมือทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องถามใจเราด้วยว่าพร้อมหรือเปล่าที่จะรับกับปัญหาและอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าด้วย”

นอกจากนี้ เจ้าของร้านคนเก่งยังกล่าวทิ้งท้ายว่าเกี่ยวกับหลักการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไว้ว่า “สำหรับผมแล้วหลักในการทำธุรกิจให้สำเร็จ มี 2 อย่าง อย่างแรกคือต้องมีความสุข และอย่างที่สอง ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว ไม่ต้องวางแผนอะไรมากมาย แค่เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้จับตะหลิว แค่นี้เลยสำหรับผม ถ้าทำงานแล้วมีความสุข ผมว่าประสบความสำเร็จแล้ว”
แหม่! ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่อาหารที่แซ่บเท่านั้น แต่มุมมองความคิดของชายหนุ่มนักธุรกิจเจ้าของร้านกุ้งกระทะเหล็กคนนี้ เรียกว่า จัดจ้านเหลือเกิน สำหรับใครที่ชอบเมนูแซ่บๆ ชอบทานกุ้งตัวโตๆ อาหารทะเลนำจิ้มรสเด็ด หรือเมนูอาหารปักษ์ใต้ รวมทั้งสารพัด สามารถไปอิ่มอร่อยได้ที่ “ร้านกุ้งกระทะเหล็ก” พิกัดหลังมหาวิทยาลัยรังสิต
มาอีก มาบ่อย อาหารที่นี่อร่อย มาบ่อยๆ มาได้ตลอดจ้า... จัดไป
"