เชื่อว่าความฝันหนึ่งของเด็กผู้ชายคือ การได้เป็นนักกีฬา หลายคนมีไอดอล และพยายามพัฒนาตัวเองเพื่อไปสู่จุดที่ตัวเองฝัน เช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี้ “ศัลยวิทย์ รัตนบุรานนท์” จากนักกีฬาฟุตซอล สู่ผู้จัดการสโมสรฯ จากที่เคยมีคนอื่นเป็นไอดอล วันนี้เขาเป็นต้นแบบที่ดีให้กับน้องๆ ในวงการฟุตซอล
ศัลยวิทย์ รัตนบุรานนท์ ผู้จัดการสโมสรฟุตซอลแบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด เล่าให้ฟังว่า ชอบฟุตซอลมาตั้งแต่อายุประมาณ 8 ขวบ ประกอบกับขณะนั้นครอบครัวเป็นสปอนเซอร์ฟุตซอลเดินสาย โดยให้เงินสนับสนุน ถ้วยรางวัลแถวมีนบุรี คลองสามวา หนองจอก ทุกสนาม และผมเองก็จะไปด้วยกับคุณพ่อคุณแม่อยู่เสมอ ทำให้ซึมซับกีฬาฟุตซอล หลงใหลเป็นอย่างมาก โดยทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ก็จะไปสนามบอลทุกวัน เมื่ออายุประมาณ 10 ขวบก็ได้เริ่มออกแข่งฟุตซอลเดินสายในหลายรายการ เพราะชอบฟุตซอล บ้าฟุตซอล เราจึงพยายามเรียนรู้ ไม่หยุดพัฒนาตนเอง และมีความฝันอยากเป็นนักกีฬาฟุตซอล จำได้ว่าประมาณปี 2006 ประเทศไทยได้มีการจัดฟุตบอลไทยลีกที่แฟชั่นไอซ์แลนด์ จะมีการแข่งวันละ 4 คู่ ผมก็จะไปดูกีฬาฟุตซอลทุกสัปดาห์ เรียกว่าชีวิตวัยเด็กอยู่ที่สนามฟุตซอลเป็นส่วนใหญ่
เมื่อความฝันต้องเปลี่ยนเส้นทาง...
“ผมมีความฝันอยากเป็นนักฟุตซอลอาชีพและทีมชาติไทยเหมือนเด็กทั่วไป ตอนนั้นมีพี่แถวบ้านก้าวไปติดทีมชาติไทย คือ อนุชา มั่นเจริญ พ่อมดฟุตซอลไทย และ วรุฒ หวังสะมะแอล ผมเลยมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมมากๆ อยากไปเล่นฟุตซอลลีกติดทีมชาติไทยเหมือนรุ่นพี่ที่บ้าน แต่ด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หลังจากจบ ม.6 ผมโชคร้ายเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาด หมอนรองกระดูฉีก บาดเจ็บค่อนข้างหนักต้องหยุดเล่นกีฬาเพื่อพักรักษาตัวไป 1 ปีเต็ม เมื่อผมไม่สามารถไปต่อบนเส้นทางนักกีฬาได้ แต่ผมไม่ยอมทิ้งความฝันที่รักในกีฬาฟุตซอล จึงพยายามมองถึงการทำงานเกี่ยวกับกีฬา จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการตัดสินใจเลือกเรียนในระดับอุดมศึกษาทางด้านนิเทศศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต เพราะนอกจากเราจะได้เรียนรู้อย่างรู้รอบ รู้จริงในศาสตร์การกีฬา การผลิตสื่อ และยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารการจัดการด้านกีฬาอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันผมได้นำความรู้ที่เรียนมาปรับใช้กับการทำงานในตำแหน่ง ผู้จัดการสโมสรฟุตซอลแบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด”
ศัลยวิทย์ กล่าวต่อว่า แม้เกิดจุดพลิกเกมและความฝันจะต้องเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่หยุดที่จะพยายามเรียนรู้และพัฒนาตนเอง คิดว่าอย่างไรก็แล้วแต่เราจะสานฝันเกี่ยวกับกีฬาฟุตซอลให้ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งโอกาสดีก็ยังเข้าข้างชีวิตผู้อยู่ โดยช่วงเรียนปี 3 ต้องออกไปฝึกงาน จึงเลือกไปฝึกงานที่สโมสรบลู เวฟ ชลบุรี ในตำแหน่งมีเดีย และประสานงานทั่วไป หลังจากนั้นทางสโมสรก็ได้ติดต่อให้เข้าทำงานที่สโมสรฯ เลย เรียกว่าเรียนไป ทำงานไป ได้เงินเดือนไปด้วย เก็บเกี่ยวประปบการณ์อยู่ที่สโมสรฯ นี้ประมาณ 5 ปี ทั้งยังได้เรียนรู้งานเพิ่มขึ้นในการประสานงานติดต่อกับชาวต่างชาติ ได้เห็นแนวทางของโค้ชทั้งไทยและสเปน ได้ศึกษาแทคติกจากฟตุซอลจากโค้ชทั้งสองไปด้วย แม้ตัวเองจะไม่ได้เป็นโค้ชก็ตาม เพราะคิดเสมอว่าถ้าเราทำงานสายนี้เราควรมีความรู้หลายด้าน ควรดูฟุตซอลให้แตก รู้ระบบทีมด้วยว่าโลกของฟุตซอลปัจจุบันเป็นอย่างไร จะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น และได้ทำงานร่วมกับไอดอลในการเล่นฟุตซอลของตนเองคือ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง นักกีฬาฟุตซอลทีมชาติไทยอีกด้วย
ความท้าทายครั้งใหม่ กับสโมสรฟุตซอลแบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด
จากผู้เล่นในสนาม สู่ผู้จัดการทีม และเป้าหมายใหม่ ศัลยวิทย์ กล่าวต่อว่า ภายหลังประมาณปี 2022 ได้ตัดสินใจย้ายมาทำงานกับสโมสรฟุตซอลแบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด สโมสรที่มีความมืออาชีพในเรื่องของการบริหารทีม ความพร้อมทั้งเรื่องโภชนาการนักกีฬา วิทยาศาสตร์การกีฬา มีเป้าหมายการทำทีมชัดเจน ที่จะก้าวไประดับเอเชีย โดยได้ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการทีม ดูแลประสานงานด้านต่างประเทศในการเดินทางไปแข่งขัน ประสานงานด้านต่างๆ โรงแรมที่พัก ติดต่อนักกีฬาใหม่เข้าสู่ทีม ดูแลเรื่องนักกีฬาบาดเจ็บพาไปโรงพยาบาลไปให้กำลังใจทุกคน คอยดูแลทุกอย่างหลังบ้านแก้ปัญหาหลังบ้าน วันแข่งขันจะคอยดูความเรียบร้อยทุกอย่าง เรียกว่า ตื่นเป็นคนแรกกลับคนสุดท้าย โดยดูแลเรื่องอาหารเช้าให้กับนักกีฬา เช็คสนามแข่งขัน และดูความเรียบร้อยของการแข่งขันจนเสร็จสิ้นกลับบ้านคนสุดท้าย
“นอกจากดูแลเรื่องทั่วไป เรื่องสภาพร่างกายนักกีฬาแล้ว ยังดูแลเรื่องจิตด้วย พยายามสอนน้องทุกคนให้ตั้งใจซ้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ มีระเบียบวินัยทั้งในสนามและนอกสนาม เพราะระเบียบวินัยนอกสนามที่ดีจะส่งผลต่อผลงานในสนามด้วย และให้คำแนะนำด้านอื่นๆ เพราะเคยเห็นนักกีฬาในอดีตที่ไม่มีระเบียบวินัย จะหลุดจากสารระบบฟุตซอล หลุดจากวงการ ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับน้องในทีม และเป้าหมายที่ใหญ่กว่าในวันนี้คือ อยากเห็นสโมสรฯ ก้าวไปเล่นในสนามเอเชียและเป็นที่รู้จักของคนทั่วเอเชียและทั่วโลก”
นอกจากนี้ ยังฝากทิ้งท้ายไว้ว่า เพราะความฝันของแต่ละคนล้วนต่างกันออกไป การตั้งเป้าหมายให้ความฝัน จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะช่วยให้เห็นจุดหมายที่เราอยากทำให้สำเร็จได้ชัดเจนมากขึ้น เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน ต่อให้มีอุปสรรคแค่ไหน เราก็จะสามารถพาตัวเองก้าวผ่านไปสู่จุดที่ประสบความสำเร็จได้... Keep Going
"