เคล็ด (ไม่) ลับการสอน กับอาจารย์ Given ศิษย์เก่าทันตแพทย์ ม.รังสิต

12 Sep 2022

            จากความรู้ในห้องเรียนสู่ประสบการณ์ในการทำงานอย่างอาจารย์รุ่นใหม่ อ.ทพ.วสันต์ วัฒนศักดิ์ หรืออาจารย์ Given ศิษย์เก่า รุ่นที่ 3 วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบันนอกจากการเป็นอาจารย์ประจำแล้วยังเป็นทันตแพทย์ด้านทันตกรรมประดิษฐ์(ฟันปลอม) ครอบฟัน หรือบูรณะรากเทียม ในคลินิกอีกหลายแห่ง วันนี้จะมาจับเข่าคุยเกี่ยวกับการเรียนการสอนตั้งแต่การเป็นนักศึกษาจนกระทั่งเป็นอาจารย์ทันตแพทย์ ในรั้วมหาวิทยาลัยรังสิต ว่ามีเคล็ดลับการสอนที่น่าสนใจอย่างไร

 

 

กว่าจะเป็นทันตแพทย์

            อาจารย์ Given เล่าว่า ช่วงที่ผมเรียนแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลักๆ คือ ช่วงปี 1 - ปี 2 เปรียบเสมือนกับ Honeymoon Period คือเรียนอาจจะไม่ได้หนักมาก โดยเนื้อหาจะเป็นวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่เรียนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้วมาปรับพื้นฐาน แต่หลักๆ คือ การทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ เรียนรู้กับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาปรับตัว แล้วก็เป็นช่วงที่ค่อนข้างที่จะเอ็นจอยกับชีวิตมาก  กิจกรรมค่อนข้างหนักแต่การเรียนไม่ได้หนักมากยังพอมีเวลาที่จะสนุก พอขึ้นปี 2 ก็จะเริ่มยากขึ้นมานิดนึง เริ่มเข้าวิชาพวกอนาโตมี แล้วกิจกรรมก็ต้องทำ เราเป็นรุ่นพี่ก็ต้องไปรับน้อง ส่วนช่วงปี 3 - ปี 4 ก็จะเข้าวิชาคณะมากขึ้นครับ เริ่มเรียนวิชาที่เกี่ยวกับการทำฟันปลอม การรักษารากฟัน แล้วก็พวกดัดลวด ดัดฟัน ซึ่งก็เป็นช่วงปรับตัวที่ค่อนข้างมากเหมือนกันครับ เพราะทุกอย่างใหม่หมด

 

 

            สมัยเรียนบ่อยครั้งที่ช่วงปี 3 - ปี 4 จะเรียนวันเสาร์ - อาทิตย์ คือเรียนอาทิตย์ละ 6 - 7 ครั้ง ก็จะค่อนข้างเหนื่อย โดยเฉพาะช่วงสอบมิดเทอม ไฟนอล พอขึ้นปี 5 - ปี 6 เป็นช่วง Pre Clinic ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะมีปัจจัยที่เข้ามาคือคนไข้ คนไข้ที่เป็นคนไข้ Walk in ซึ่งแน่นอนว่าเราควบคุมไม่ได้ว่าจะให้เขามาในคาบนี้ แต่เรามีเวลาจำกัดที่จะจบการศึกษาให้ทันกำหนดของมหาวิทยาลัย ซึ่งต้องบริหารจัดการเวลาครับ ก็รู้สึกว่ามันเป็นชีวิตที่มีหลายรสชาติคือ มีทั้งช่วงเวลาที่รู้สึกสนุกและช่วงเวลาที่รู้สึกเครียด

 

 

 

ความภูมิใจที่ได้เป็นอาจารย์

             รู้สึกภูมิใจนะครับ เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนเล็กๆ ในการพัฒนาที่นี่ ให้มีการเรียนการสอนที่ดีขึ้น เนื่องจากว่าเราเองจบเฉพาะทางได้ไม่นาน แนวคิดต่างๆ ที่ได้เรียนมาจะเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่ แล้วก็ได้มีโอกาสมาแชร์กับเพื่อนร่วมงานก็ดี หรือกับน้องๆ ก็ดีครับ มีการอัพเดทกัน ทำให้งานมีการพัฒนามากขึ้น ในแง่ของการสอนหรือในแง่ของการทำวิจัยก็ดี เมื่อเรานำสิ่งที่เรียนรู้จากที่นี่เป็นพื้นฐานไปต่อยอดจากข้างนอกที่เราเรียนต่อมาแล้วถ่ายทอดให้น้องๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นประโยชน์กับตัวเด็กๆ และคนไข้ของเขา เป็นประโยชน์กับการทำอาชีพทันตแพทย์ในอนาคต และกับมหาวิทยาลัยด้วยครับ

 

 

 

อาจารย์รุ่นใหม่กับ “เคล็ดลับในการสอน”

            จริงๆ ไม่เชิงว่าเป็นเคล็ดลับนะครับ แต่อันดับแรกคือ เราจะต้องพยายามย่อยเนื้อหา ซึ่งเนื้อหาของวิชาทันตแพทย์นั้นค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะ มีความเป็นศิลปะด้วยส่วนหนึ่ง เคล็ดลับก็คือ การสอนให้เขาเห็นภาพ ให้เขาจำเป็นภาพ จริงๆ มันก็เป็นพื้นฐานของทุกคณะคือ ถ้าเราสามารถทำให้เด็กจำเป็นภาพได้ อธิบายโดยใช้ภาษาระดับเขา แล้วก็ไปอย่างช้าๆ ให้เวลาในการทำความเข้าใจก็จะทำให้เขาซึมซับสิ่งที่เราสอนได้ดี  บางครั้งต้องอดทน เมื่อเวลาเขาไปเจอคนไข้จริง เราต้องย้ำในสิ่งที่เราพูดในเลคเชอร์ให้เขาฟังต่อหน้าคนไข้ เขาก็จะเข้าใจแนวคิดหรือเห็นภาพแล้วก็จำได้ดีขึ้น เพราะนั่นคือของจริง นอกจากนี้ การที่เราเอาตัวอย่างมาให้ดูที่มากกว่าภาพถ่ายจาก Text book นั่นก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เขาจำและนำมาใช้ต่อได้ หรือจะเป็นการเปรียบเทียบกับสิ่งที่เรามองเห็นได้ทั่วไป เช่น สมมุติว่า เราพูดถึงฟันที่อาจจะต้องรับตะขอฟันปลอม แต่ว่าฟันเขามีภาวะเป็นโรคเหงือก เราจะพูดอย่างไรให้เขาเข้าใจว่า ระดับกระดูกเท่านี้ ฟันมันดูยาวนะ เวลารับตะขอฟันมันจะโยก เด็กนึกไม่ออก ผมก็เปรียบเทียบว่า ถ้าฟันเป็นต้นไม้ สมมุติส่วนของรากมันไม่ยาวหรือไม่กว้างพอ แล้วเราเอาเชือกไปดึงมัน แรงยึดข้างใต้มันไม่พอมันก็โค่นลง อะไรประมาณนี้ครับ เปรียบเทียบกับสิ่งที่มองเห็นได้ทั่วไปเพื่อให้เขาเข้าใจภาพให้มากที่สุดครับ

 

 

 

พูดถึงม.รังสิต

            มหาวิทยาลัยรังสิตเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของสถานที่ แล้วก็มีกิจกรรมมากมายให้นักศึกษาทำ ตั้งแต่ผมเรียนมาจนประทั่งปัจจุบันกลับมาได้เห็นว่ามหาวิทยาลัยมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากในแง่มุมของการเปิดหลักสูตรที่หลากหลาย สำหรับวิทยาลัยทันตแพทย์เอง ก็ได้มีการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาแล้วหลายหลักสูตรเป็นหลักสูตรที่ตอบโจทย์ของตลาด ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการรักษารากฟัน หลักสูตรรากเทียมในระดับปริญญาโท หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงที่เป็นของทันตกรรมทั่วไป ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างตามเทรนด์ของสังคมเปลี่ยนแปลงตามพลวัตของสังคม ซึ่งถือว่าดีเลยครับ

 

 

            สุดท้ายฝากถึงน้องๆ ที่สนใจเรียนทางด้านนี้ไว้ด้วยว่า ต้องขยันอ่านหนังสือและเตรียมตัวให้ตัวเองมีพื้นฐานที่แข็งแรงในการที่จะสอบเข้า การเรียนควบคู่กับการทำกิจกรรมก็มีความสำคัญ เพราะว่าจะสอนให้เรารู้จักบาลานซ์ตัวเอง แล้วเมื่อทำพอร์ตมาสัมภาษณ์ก็จะทำให้เราดูเป็นเด็กที่ไม่จำเจ หมายถึงเราสามารถเรียนและทำกิจกรรมควบคู่กันได้ นั่นแปลว่าเราเป็นคนที่ดูแลตัวเอง จัดการเวลาตัวเอง รับผิดชอบตัวเองได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้ดูเป็นคนที่มีศักยภาพ มีโอกาสสูงที่จะเข้ามาเรียนในคณะนี้นะครับ

 

"

ผู้จัดทำ

บทความที่คุณอาจสนใจ