“ฝันแล้วทำ... มีพลังที่สุด” ประโยคนี้น่าจะเหมาะกับคนที่มีความคิด มีความฝัน และลงมือทำในสิ่งที่รักตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาออาจจะไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าได้ลองทำแล้ว

เช่นเดียวกับหนุ่มอินดี้คนนี้ จากเด็กหนุ่มที่รักในกีฬาเอ็กซ์ตรีม รักการเล่นสเก็ตบอร์ดเป็นชีวิตจิตใจ เขาเริ่มจากการทำสิ่งที่รัก ไปให้สุด ทำให้เต็มที่ แล้วต่อยอดความฝันไปสู่งานที่รัก จากเอาดีด้านกีฬาเวคสเก็ตคว้ารางวัลในหลายสนาม สู่เจ้าของร้านกาแฟ ที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งร้านนั่งชิล โดนใจคอกาแฟสายฮิป เป็นคอมมูนิตี้แห่งใหม่ในย่านเมืองนครศรีธรรมราชที่ใครๆ ต้องแวะมาเชคอิน กินกาแฟร้านนี้ “GLUR HOUSE” Skateboard Cafe and Friends

สุเมทัศน์ สิวะสุธรรม ศิษย์เก่าสาขาวิชานวัตกรรมการโฆษณาและสื่อสร้างสรรค์ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เริ่มต้นชีวิตในรั้วมหา’ลัยโดยเลือกเรียนสายครีเอทีฟ และยังคงใช้เวลาว่างที่มีกับการเล่นสเก็ตบอร์ดตลอดมา แม้จะเรียนๆ เล่นๆ แต่เขาก็มีความตั้งใจในการพัฒนาตนเองในการเรียนรู้ด้านงานครีเอทีฟ โดยมีความตั้งใจว่าหลังจากเรียนจบอยากจะเปิดร้านกาแฟในสไตล์ชิลๆ และถ่ายทอดความเป็นตัวตนในสิ่งที่เขาหลงใหลไปกับร้านกาแฟที่เปิด

“เอาจริงนะ! ผมก็เป็นแค่วัยรุ่นทั่วไปที่รักสนุก ชอบอะไรก็จะทำให้สุด อย่างสเก็ตบอร์ดนี่ผมก็เล่นมาตั้งแต่ ม.3 เล่นจนเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ผมเลยเลือกเรียนในสายที่ผมจะสามารถมีเวลามาทำในสิ่งที่ผมรักได้ด้วย กับการเรียนด้านโฆษณาที่ม.รังสิต ก็ดีนะ ตลอด 4 ปีได้อะไรโคตรเยอะ ทั้งเรื่องการครีเอทงาน การถ่ายภาพ การทำ Ad สินค้าต่างๆ ที่นี่สอนให้คิดมองเห็นภาพ และสร้างสรรค์งานให้ออกมาได้ดี ตอนนั้นเราเลยคิดว่าเดี๋ยวเรียนจบจะเปิดร้านกาแฟ แต่ด้วยความที่เพิ่งเป็นเด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ ทางครอบครัวเลยมีความเห็นว่าน่าจะเรียนต่อหรือทำงานเพื่อเก็บประสบการณ์ไปก่อน ผมจึงตัดสินใจเลือกเรียนต่อทางด้านออกแบบในระดับปริญญาโท คณะศิลปะและการออกแบบ ม.รังสิต เพื่อต่อยยอดความรู้เดิม หลังเรียนจบผมคิดว่า... นี่แหละเวลาลุยความฝันมาถึงแล้วจึงเลือกที่จะกลับนครศรีธรรมราชบ้านเกิด ไปเปิดร้านกาแฟในไลฟ์สไตล์ที่เป็นของเรา”

จุดเริ่มของ “GLUR HOUSE” Skateboard Cafe and Friends

          สุเมทัศน์ เล่าให้ฟังว่า หลังจากตัดสินใจกลับนครศรีธรรมราชเพื่อจะมาเปิดร้านกาแฟตามที่ตั้งใจไว้นั้น ได้เริ่มศึกษาข้อมูล หาโลเคชั่น รวมทั้งไปเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำกาแฟ และทำเค้กต่างๆ เพราะอยากจะทำทุกอย่างในร้านด้วยตัวเอง และหลังจากทุกอย่างลงตัวจึงเริ่มทำร้านกาแฟ โดยได้นำไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่ชอบเล่นสเก็ตบอร์ดมาตกแต่งบรรยากาศในร้าน อยากให้คนที่เข้ามาในร้านได้สัมผัสตัวตนของเรา นอกจากนี้ ต้องการทำให้ร้านเป็นเหมือนอีกหนึ่งคอมมูนิตี้ของกลุ่มคนวัยต่างๆ ได้มาพบปะสังสรรค์กัน ไม่ว่าจะนั่งชิล นั่งทำงาน หรือเล่นเกมส์ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางร้านมีให้ลูกค้าได้มานั่งจอยกัน โดยคงความรู้สึกของความเป็นเพื่อนเกลอ เสมือนมาเยี่ยมบ้านเพื่อนแล้วได้กินข้าวฝีมือแม่ ได้พูดคุยเล่นกัน เรามองว่าไลฟ์สไตล์ความเป็นกันเอง โดยมีกลิ่นอายของความเป็นเพื่อเหล่านี้นี่แหละที่จะสามารถทำให้ Glur House เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ลูกค้าจะแวะมาเชคอิน นั่งกินกาแฟ

“GLUR HOUSE” ใส่ใจทุกรายละเอียด... พร้อมเสิร์ฟกาเเฟหอมกรุ่น... 

“ในส่วนของการตกแต่งร้านนั้นเป็นธีม skateboard พื้นปูนดิบ ภายในร้ายนั่งชิลๆ สบายๆ มีของเล่นให้เล่นแบบคูลๆ ก็อยู่ที่ You แล้วแหละว่าจะไปนั่งชิลกับใคร (55+) และอย่างที่บอกว่าผมลงมาดูแลจัดการเองทุกอย่าง ทุกเดือนเราก็จะมีเมนูพิเศษไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือเค้ก ของทานเล่นต่างๆ ในแบบโฮมเมด เราพิถีพิถันทุกขั้นตอน ใส่ใจทุกรายละเอียด อยากให้ลูกค้าประทับใจเหมือนกับเวลาไปเยี่ยมบ้านเพื่อน ได้ชิมอาหารฝีมือแม่ ล้อมวงพูดคุยกัน และคงกลิ่นอายของความเพื่อนเกลอ ของตกแต่งทุกอย่างภายในร้านก็จะเป็น skateboard ที่ผมเคยเล่นหรือของเพื่อนๆ ในก๊วน เราอยากสะท้อนความเป็นตัวตนออกไป ซึ่งในโลเคชั่นใกล้เคียงกันร้านกาแฟแนวนั่งชิลแบบนี้อาจจะมีหลายร้าน แต่ผมมั่นใจว่าถ้าเป็นแนวแบบ Glur House มีร้านเดียวที่ไม่เหมือนใคร ไม่มีใครเหมือน ถูกใจสายฮิป วัยรุ่นชิคๆ มานั่งเล่นชิลๆ แน่นอน”

สำหรับวันนี้ของ Glur House เปิดบริการมา 2 ปีแล้ว ผลตอบรับถือว่าดีมาก มีคนแวะเวียนมาใช้บริการตลอด และกลายเป็นที่เชคอินที่วัยรุ่นเมืองนคร แวะมานั่งชิล

“ในส่วนของเรื่องการทำการตลาดนั้น ผมก็เป็นคนดูแลเองทุกอย่าง ทั้งเรื่องการทำคอนเทนต์ การถ่ายภาพเครื่องดื่มหรืออาหารเพื่อโปรโมตผ่านสื่อต่างๆ ยิ่งในยุคที่สื่อออนไลน์มีผลต่อการการสร้างแบรนด์ เราก็ต้องขยันทำคอนเทนต์ ครีเอทและทำเมนูใหม่ๆ พิเศษๆ อยู่เสมอ เป็นเมนูฟิวชั่นของทุกเดือน หรือแม้แต่การไปออกบู้ธตามห้างต่างๆ ความพิเศษของการออกบู้ธแต่ละครั้งคือ เราจะจัดทุกอย่างในบู้ธ ของตกแต่งทุกอย่างเสมือนยกร้านเราไปไว้ที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อให้ลูกค้าที่แวะมาที่บู้ธได้สัมผัสถึงบรรยากาศร้านกาแฟของเราว่าเป็นแบบไหน และอยากแวะมาเยี่ยมชมที่ร้านของเรา ซึ่งทักษะความรู้เหล่านี้ผมได้มาจากการเรียนทั้งในระดับปริญญาตรีและโท สิ่งเหล่านี้สอนให้ผมมีกระบวนการคิดเป็นระบบมากขึ้น เราไม่ได้เน้นขายของอย่างเดียว แต่เราต้องการสะท้อนให้ลูกค้าได้เห็นถึงความใส่ใจในทุกเมนู และนี่คือ Glur House คือ กลิ่นอายของความเป็นเพื่อน และในปีที่ผ่านมา Glur House ยังได้รับรางวัล Coffee forest Design อีกด้วย” สุเมทัศน์ กล่าว

เครื่องดื่มเเละขนมเมนูพิเศษที่มีไม่ซ้ำในเเต่ละเดือน... 

“เพราะฝันแล้วทำ... มีพลังที่สุด” 

          “ผมไม่รู้ว่าแต่ละคนเริ่มต้นความฝันจากตรงไหน แต่สำหรับผมเริ่มต้นจากไลฟ์สไตล์ความชอบในสิ่งที่ผมรัก เรื่องกีฬาผมเล่นทั้งสเก็ตบอร์ด และเวคบอร์ด หลายคนอาจจะมองว่าเล่นไปวันๆ แต่ผมไม่คิดแบบนั้น ผมโชคดีที่ครอบครัวผมเข้าใจและสนับสนุนให้ลูกได้ทำในสิ่งที่รัก จากที่เล่นเพียงแค่สนุกสนาน ผมก็เข้าสู่การแข่งขันและได้รับถ้วยรางวัลในหลายสนามแข่งขัน และหากถามว่าวันนี้ผมประสบความสำเร็จหรือยัง? ผมตอบเลยว่า ความสำหรับของผมไม่ใช่การร่ำรวยเงินทอง หรือจะต้องมีร้านกาแฟเพิ่มขึ้นอีกหลายร้าน แต่ความฝันมันเริ่มชัดเจนและมันสำเร็จในวันที่ผมได้ทำร้านกาแฟแล้วต่างหาก ผมฝันอยากทำร้านกาแฟ และผมก็ได้ทำแล้ว แม้ว่าวันข้างหน้าจะไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีที่สุด และผมจะทำต่อให้เต็มที่”

Skateboard เเละ Wakeskate จากความชอบสู่การต่อยอดทำร้านกาแฟ... 

อยากเชคอิน ชิมกาแฟ “GLUR HOUSE” ต้องไปที่ไหน...  

         สำหรับคอกาแฟ สายฮิปที่อยู่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช สามารถแวะไปเชคอินได้ทุกวัน ไปคนเดียวก็ไม่เป็นไร เพราะเจ้าของร้านเค้าอัธยาศัยดี หรือจะไปเป็นก๊วนก็มีบอร์ดเกมส์ให้เล่น หรือจะนั่งชิล นั่งติวหนังสือ หรือนั่งทำงานก็สามารถแวะไปได้ กาแฟรสดี บราวนี่อร่อย เครื่องดื่ม อาหาร ขนมเมนูพิเศษเจ้าของร้านครีเอทเองไม่ซ้ำในแต่ละเดือน ต้องแวะไปโดนที่ “GLUR HOUSE” Skateboard Cafe and Friends