หลายคนเกิดมาพร้อมกับความถนัดติดตัว หรือที่เราเรียกว่า “พรสวรรค์” บางคนร้องเพลงเพราะ เล่นละครได้ เป็นคนชอบครีเอทสร้างสรรค์ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีพรสวรรค์ใดที่ปราศจากการฝึกฝน นั่นคือ “พรแสวง” นอกจากนี้ การรู้จักตัวตนของตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะทุกความสำเร็จเริ่มต้นจากแรงบันดาลใจ และการได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นพื้นที่ของคนมีฝัน มีพรสวรรค์และพรแสวง และนี่คือเหล่าผู้กล้า 10 คน จาก 10 สาขาวิชาของนิเทศศาสตร์ ที่พร้อมประกาศให้โลกรู้ว่าตัวตนคนนิเทศศาสตร์เป็นแบบไหน พร้อมที่จะเปิดใจกระตุกไฟฝันไปกับพวกเขาแล้วหรือยัง?
มาริษ สาครพันธรักษ์ (มาร์ค) สาขาวิชาคอนเทนต์เเละสื่อดิจิทัล วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ความเป็นตัวตนคนนิเทศศาสตร์ คือ คนที่ใช้สื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเผยแพร่สิ่งต่างๆ ไปสู่คนอื่นได้ สงครามเย็นไม่ได้สู้กันด้วยหัวรบนิวเคลียร์แต่สิ่งที่ใช้สู้กันคือข้อมูลต่างหาก คำถามคือเราจะนำข้อมูลพวกนั้นไปสู่ที่ต่างๆ ได้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพที่สุด นี่คือหน้าที่ของนักสื่อสารมวลชน ไม่ใช่เพราะว่า ‘เห้ยกูเรียนนิเทศ กูต้องเท่ กูต้องแนว’ อันนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้าเปรียบกับอาหาร คนนิเทศศาสตร์คือ อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและในขณะเดียวกันต้องมีรสชาติที่ดีด้วย ส่วนเรื่อง presentation กับ appearance มันก็สำคัญรองลงมา
ชวน คมขำ (บิ๋มฐา) สาขาวิทยุและโทรทัศน์มัลติแพลตฟอร์ม วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของบิ๋มเลยก็คือ “ความกล้า” เพราะนิเทศศาสตร์ คือ ศาสตร์ของการสื่อสาร สื่อสารเพื่อใคร? ถ้าสำหรับบิ๋มคือเพื่อทุกคนบนโลกใบนี้ เราต้องกล้าที่จะนำเสนอสิ่งต่าง ๆอย่างเป็นธรรม ตรงไปตรงมา และถ้าเรากล้าสื่อสารมันออกมาได้อย่างแท้จริงแล้ว แสดงว่าการที่เราได้เข้ามาเรียนนิเทศศาสตร์นั้น ถือเป็นการประสบความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งในการเป็นนักสื่อสารมวลชนที่ดี ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัว เช่น การเป็นเพศที่สาม เพราะการที่เราเป็นเพศที่สามก็ถือว่าเรากล้าที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเราเองออกมาให้กับสาธารณชนได้รู้ ว่าตัวตนของเราคืออะไร ไม่โกหกความรู้สึกของตัวเอง และกล้าที่จะบอกทุกว่า “ใช่ค่ะ นี่คือตัวตนของเรา” #อย่าให้ใครมาตัดสินเราโดยที่เขาไม่รู้จักตัวตนของเราดีพอ ซึ่งถ้าเรากล้าที่จะเผชิญกับความจริงกับตัวเอง แน่นอนว่าสิ่งต่างในโลกนี้ ยังไงเราก็กล้าที่จะเป็นกระบอกเสียงให้กับมัน เพื่อที่จะกระจายสารออกไปให้ชาวโลกได้รับรู้ เพราะเราคือนักนิเทศศาสตร์ ศาสตร์แห่งนักสื่อสารมวลชน ‘จงเป็นผู้ที่กล้า กล้าที่จะพูด กล้าที่จะฟัง และกล้าที่จะลงมือทำ เพราะความกล้าจะทำให้เราสามารถไปสู่จุดมุ่งหมายของเราได้’ #ประกาศให้โลกรู้ว่าเราคือนิเทศศาสตร์
เนตินัย สว่างบุญ (อาร์ม) สาขาวิชานิเทศศาสตร์การกีฬา วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า คนนิเทศศาสตร์ในมุมมองของผมต้องเป็นคนที่ชอบสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ไม่ชอบอยู่ในกรอบ มีความคิดที่แปลกแหวกแนวกว่าชาวบ้าน สำคัญคือ ชอบและหลงใหลในสิ่งที่ทำจริงๆ เพราะถ้าฝืนทำทั้งที่ไม่ชอบ ก็จะทำได้ไม่นานและไม่มีความความสุข สุดท้ายก็จะหยุดพัฒนาและเลิกทำสิ่งนั้นไป อย่างผมชอบกีฬามาก อยากพัฒนาสื่อกีฬาให้มีความก้าวหน้า จึงสนใจอยากเรียนด้านนิเทศศาสตร์การกีฬา ผมเริ่มจากการดูสื่อกีฬาทุกรูปแบบ ที่ไม่ใช่แค่ดูเฉยๆ แต่ดูแล้วคิดตามเสมอว่า หากวันหนึ่งเราได้สื่อในรูปแบบต่างๆ เราจะครีเอทออกมายังไงให้ผลงานของเราออกมาดีกว่าทั่วไป วิธีการในแบบของผมคือ เรียนรู้รูปแบบแนวคิดและเทคนิคต่างๆ ของผลงานนั้นๆ แล้วนำมาต่อยอดพัฒนาให้ผลงานของเราโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
อนวัช เอียบก๊ก (ปังปอนด์) สาขาวิชาการตลาดดิจิทัล วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การเรียนนิเทศศาสตร์ ก็เหมือนกับการปลูกดอกกุหลาบ กว่าเราจะได้ดอกกุหลาบที่สวยสักดอก ต้องผ่านหนามที่แหลมคม และการเรียนสาขาสื่อสารการตลาดดิจิทัลก็เช่นเดียวกัน เราจะต้องหาหนามของตัวเองให้เจอ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือและกลยุทธ์ในการเรียนรู้ รวมถึงการใช้ชีวิตในอนาคต ยิ่งเราค้นหาหนามของตัวเองได้มากเพียงใด เราก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเราจะสามารถพัฒนาและเรียนรู้ตัวเองได้อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อที่วันหนึ่งที่กุหลาบดอกนี้ จะเบ่งบานในโลกของความเป็นจริงได้อย่างสวยงาม
สุนิสา ชัยฤทธิ์ (สา) สาขาวิชามัลติมีเดีย วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การเรียนด้านนิเทศศาสตร์ก็คือการได้แสดงตัวตน และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ได้คิด ได้ลงมือทำตามใจจินตนาการ เอาง่ายๆ ก็เหมือนชีวิตเราในทุกวัน วันไหนขี้เกียจหรือตื่นสายก็แค่อาบน้ำทาครีมทาแป้งหยิบชุดไหนได้ก็ใส่ สะพายกระเป๋าโน้ตบุ้ค ใส่รองเท้ารัดส้นแล้วออกจากห้องไปเรียน แต่ถ้าหากวันไหนที่ตื่นเช้ามีเวลาก็จะพิถีพิถันในการแต่งตัว ทั้งแต่งหน้า ทาปาก เขียนคิ้ว เขียนอายไลน์เนอร์ จัดเต็มก็ว่ากันไป คนนิเทศศาสตร์จะว่าชิลก็ไม่เชิง เราต้องอยู่กับงานครีเอท คิด จินตนาการสร้างสรรค์ไปตามโจทย์ ทำงานได้หลากหลายรูปแบบ หรือแม้แต่งานแบบเผาหัวไฟลนก้นเสร็จภายในวันเดียวก็ต้องทำได้ ทุกอย่างผ่านการสร้างสรรค์ภายใต้โจทย์และถูกกำหนดด้วยเวลา คนนิเทศศาสตร์ก็คือขาลุยดีๆ นี่เอง
ชุติพนธ์ นุกูล (เติร์ก) สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า นิเทศศาสตร์ คือการสื่อสารและแสดงจุดยืนของตัวเองในสังคม ที่สะท้อนมุมมองต่างๆ และกระบวนการทางความคิดให้ออกมาเป็นสื่อในรูปแบบต่างๆ เราได้แสดงออกถึงความสามารถและตัวตนที่อยู่นอกเหนือข้อจำกัดเรื่องของเพศ เละเราเป็นหนึ่งในเพศสร้างสรรค์ อย่าง LGBT ????? นั่นก็แสดงให้เห็นว่า นิเทศศาสตร์นั้น เราสามารถเป็นอะไรก็ได้ไม่มีใครมาตีกรอบใดๆ ในสิ่งที่เราอยากเป็น และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ เพื่อพัฒนาตัวเองและยกระดับขับเคลื่อนสื่อสังคมไทยให้ก้าวต่อไปตามยุคสมัย สวยๆ ไปค่า มงที่ 3 ของไทยแน่นอน
ธชรัฐ วีสเพ็ญ (เติร์ก) สาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า เราต้องกล้าที่จะทลายกำแพงความกลัวที่มันปิดบังความสามารถอันมหาศาลของเราไว้อยู่ อย่าคิดว่าเราไม่เจ๋ง อย่าคิดว่าเราสู้คนอื่นไม่ได้ คุณแค่ลองเปิดใจ ทุบกำแพงนั้นทิ้งซะ และเอาตัวตนที่แท้จริงของคุณออกมาแสดงกัน สำหรับคนนิเทศศาสตร์ทุกคน การเป็นตัวของตัวเองนั่นคือเสน่ห์อย่างหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน มีสถานภาพแบบไหน หรือฐานะอะไรก็ตาม การเป็นตัวของตัวเองจะทำให้คุณมีตัวตน จงอย่ากลัวว่าใครจะมองว่าเราเป็นคนยังไง แค่เราเป็นตัวเองและแสดงศักยภาพให้เต็มที่ แล้ววันหนึ่งคุณจะเข้าใจว่า โลกของคนนิเทศศาสตร์มันสนุกและท้าทายมากแค่ไหน ยืดอก ยิ้มสู้ และฟาดๆๆๆๆ ที่นี่คือที่ของพวกเรา คนนิเทศศาสตร์
กฤติเดช หิงสาโร (เก้า) สาขาวิชาสื่อสารการแสดง วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า สื่อสารการแสดงไม่ได้สร้างเฉพาะละครเวทีเพียงอย่างเดียว ที่นี่เราทลายกรอบเดิมๆ ผ่านการทำงานสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งความเป็นนิเทศศาสตร์ในแบบของผมก็คือ เสียงเพลง เพลงก็คือสื่อ เพลงมีทั้งสะท้อนสังคม สะท้อนจิตใจ เยียวยาจิตใจ ทำให้คนรักกัน ศิลปินก็เป็นเหมือนกบฏที่สะท้อนสิ่งที่ตรงไปตรงมา แม้จะขัดกับมุมมอง ของคนอื่นไปบ้าง แต่เราต้องการสะท้อนตัวตนหรือพูดในสิ่งที่ไม่มีใครพูดได้ นี่คือความเป็นนิเทศศาสตร์ในมุมมองของผมครับ AIIROU
อิทธิเชษฐ์ จิตร์ปลื้ม (ลูกหมู) สาขาวิชาการภาพยนตร์ดิจิทัล วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การที่เราได้โชว์ศักยภาพ ตัวตน ผ่านผลงานสร้างสรรค์ที่แตกต่างนั่นคือความท้าทาย ผลงานที่สะอาด แปลก แตกต่าง และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นได้ นี่แหละคือสิ่งที่เราคำนึงทุกครั้งก่อนจะครีเอทงานทุกชิ้น เชื่อดิ! อย่าให้ใครเป็นตัวเรา และอย่าให้เราไปเป็นตัวของใคร เพราะนิเทศศาสตร์ สอนให้ “เราจงเป็นเรา”
นล สุทธสุวรรณ (นล) สาขาวิชานวัตกรรมการโฆษณาและสื่อสร้างสรรค์ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ณ พื้นที่ตรงนี้ ความเป็นนิเทศศาตร์คือการที่เราเอาความมั่นใจและความเป็นตัวเองมาแข่งกัน ตัวตนสำคัญไม่แพ้ความสามารถ เพราะต่อให้เก่งแค่ไหน เทพแค่ไหน หากไม่มีใครจำเราได้ก็ไม่ต่างอะไรกับ ตัวประกอบ เราต้องแตกต่าง โดดเด่นอย่างสร้างสรรค์ ในโลกของนิเทศศาสตร์ ความมั่นใจมันคือสิ่งที่มีค่ามาก มันไม่มีใครตอบเราได้ว่า สิ่งที่เราทำ มันผิดหรือถูก ถ้าเรามั่นใจว่ามันถูก มั่นใจว่ามีจะดีก็ทำมันให้เต็มที่ แล้วไปให้สุด หรือถ้าจะมีใครมาบอกว่า “อย่ามั่นใจเกินไป” ก็แค่ตอบไปเบาๆ ว่า “ผมสะดวกแบบนี้ครับ”
นี่คือสื่งที่แสดงความหลากหลายของความเป็นนิเทศศาสตร์ เลือกได้มากกว่าก็เป็นได้มากกว่า Wanna be Creator…
"