จุดที่กล้า กับก้าวที่(ชีวิต)เปลี่ยน สู่ความสำเร็จ และธุรกิจหลังความตาย Funeral Planner ของ "อัษฎายุทธ คุณวิเศษพงษ์"

15 Mar 2019


     เวลากว่า 1 ชั่วโมงกับการสนทนาเรื่องราวชีวิตของ “อัษฎายุทธ คุณวิเศษพงษ์” กับเส้นทางที่เรียกว่าชีวิตค่อนข้างโลดโผน ก้าวกระโดด จนถึงจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต


   สมัยเรียน อัษฎายุทธ คุณวิเศษพงษ์ เขาคือ พี่หนูหนึ่ง นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต เรียนนิเทศศาสตร์ เป็นผู้นำ คือต้นแบบของคนที่กล้าแสดงออก และพิสูจน์ความสามารถของตัวเองด้วยผลงานและกิจกรรมมากมาย นอกจากนี้ เขายังเป็นนักศึกษาทุนเชียร์ลีดเดอร์ ผู้ที่นำความรู้ด้านนี้ไปฝึกทีมเชียร์ลีดเดอร์ ผู้พิการหูหนวก โรงเรียนโสตศึกษานนทบุรี

     อีกมุมหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในสื่อต่างๆ เขาคือ “นาตาเลีย เพลียแคม” แดร็กควีนตัวแม่คนแรกของเมืองไทย ในรายการ Drag Race Thailand ผู้หลงใหลในงานศิลปะการแต่งแดร็ก เพื่อเติมความสุขให้กับชีวิต

     ขณะเดียวกันในโลกคู่ขนานอีกใบเขาคือ นักธุรกิจค้าหีบศพและจัดพิธีกรรมศพแบบจีน รุ่นที่ 5 ในย่านเยาวราช ร้านมังกรเขียว โดยมีเป้าหมายการทำธุรกิจนี้ในอนาคตจะให้เป็น funeral planner ที่แรกของประเทศไทย

     หลากหลายบทบาทเหล่านี้ อัษฎายุทธ ทำออกมาได้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาทุน นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ครูสอนเชียร์ลีดเดอร์คนหูหนวก แดร็กควีน หรือแม้แต่กระทั่งบทบาทของนักธุรกิจที่สานต่อกิจการของครอบครัว ทุกอย่างที่ทำอยู่บนพื้นฐานของความตั้งใจในเป้าหมายของความสำเร็จ โดยมีสารตั้งต้นว่า...

     “ทุกสิ่งที่ทำ เราจะทำอย่างสุดความสามารถ และต้องคิดต่างจากคนอื่น ถ้าวันนี้เราจะทำสิ่งที่ดีกว่า เราจะไม่ทำเรื่องที่เหมือนเดิม กระบวนการคิดที่ทำให้คิดต่าง ทำให้เรารู้สึกว่า เมื่อไหร่ที่คิดต่าง เราจะเป็นจุดสนใจจากคนรอบข้างเสมอ เพียงแต่สิ่งที่คิดต่างนั้นต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน”

     พร้อมหรือยัง? ที่จะไปสัมผัสเรื่องราวของผู้ชายคนนี้... ในหลากหลายมุมมอง

ชีวิตที่เริ่มนับ 1
     “เราโตมากับม.รังสิต ระหว่างเป็นนักศึกษาได้ทำกิจกรรมมากมาย ทั้งยังเป็นนักกีฬาเชียร์ลีดดิ้งของมหาวิทยาลัยอีกด้วย มันไม่ใช่แค่การเต้นผาดโผน แต่เรายังได้ใช้ความสามารถตรงนี้เข้าร่วมการแข่งขันและได้รับรางวัลในหลายเวที เราเรียนรู้วิชาการให้โดยนำความรู้เกี่ยวการเต้นเชียร์ลีดดิ้งไปสอนคนหูหนวก เราทำเต็มที่โดยใช้สัญชาตญาณของเรา ถึงน้องๆ จะไม่ได้ยินเสียงแต่ใช้สายตาในการจดจำ เราสร้างทีมให้แข็งแกร่งซึ่งในการแข่งขันกีฬาคนพิการเราสามารถพาทีมได้ที่หนึ่งมาตลอด จนได้ไปโชว์ที่ญี่ปุ่น นี่ไม่ใช่แค่ความภูมิใจที่เราได้ทำเพื่อคนอื่น แต่เป็นก้าวสำคัญในการเดินต่อไปอย่างมีเป้าหมายว่า เราจะไปให้ไกลกว่านี้ และเราสามารถทำได้ในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ อาจจะเป็นคำตอบที่ดูมั่นหน้า แต่เรามั่นใจ ว่าเราจะทำได้ให้ดีที่สุด”


     หลังจากเรียนจบก็ได้รับโอกาสให้เข้าทำงานด้านการตลาด เป็นผู้จัดการฝ่ายรับสมัครนักเรียนและกิจกรรมพิเศษให้กับโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต ทำอยู่ประมาณสองปี ก็ถือเป็นประสบการณ์ดีๆ ในชีวิตให้เราได้เรียนรู้ในเรื่องของการศึกษา หลังจากนั้นจึงกลับมาโฟกัสกับการทำธุรกิจของที่บ้าน คือธุรกิจโลงศพ ภายใต้แบรนด์ "มังกรเขียว" และมีโอกาสได้ทำตามความฝันของตัวเองโดยเดินเข้าสุ่เวทีประกวด Drag Race Thailand และได้รับตำแหน่งแดร็กควีนคนแรกของเมืองไทย


แดร็กควีนเมืองไทย กับจุดเปลี่ยนที่ท้าทาย... ของ “นาตาเลีย เพลียแคม”
     “ต้องบอกก่อนว่าที่มาของชื่อ 'นาตาเลีย' มาจากการรวมเสียงชื่อของนางงามจักรวาล ปี 2548 'นาตาลี เกลโบวา' ซึ่งมาประกวดที่ประเทศไทย และจะอำลาตำแหน่งในปี 2549 ซึ่งตรงกับปีที่เธอเข้าประกวด Miss ACDC ส่วน 'เพลียแคม' มาจากชื่อของยาแก้อักเสบ 'เพียแคม' ที่โฆษณาทางวิทยุ พอใช้เป็นคำพ้องเสียง ก็ฟังดูตลกและถูกใจ เราเลยเอามาใช้ โดยในการประกวดแดร็กเราก็ใช้ชื่อนี้ ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปไหมหลังจากได้ตำแหน่งนี้ เราว่าเปลี่ยนไปในแง่ของการรับรู้มากกว่า คนรู้จักเราเยอะขึ้น โอกาสหลายอย่างในชีวิตก็เข้ามามากขึ้น แต่ขณะเดียวกันเราก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังคงเป็นหนูหนึ่ง เป็นเฮีย เป็นนาตาเลีย เพลียแคม ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้คือสิ่งที่เราเป็น แต่สิ่งอื่นใดที่ถือเป็นความโชคดีคือ ครอบครัวเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น”

ความเป็น Drag Queen กับการทำธุรกิจโลงศพ โลกคู่ขนานที่เดินไปพร้อมกัน


     “ก็นั่นนะสิ! ใครจะคิดว่าสองอย่างนี้จะเดินไปด้วยกัน หลายคนมองว่ามัน contrast ก็แล้วแต่ความคิด แต่เรามองว่าตรงนี้มันคือโอกาส คนรู้จักเรามากขึ้น ก็ไม่แปลกถ้าเราจะจะสร้างแบรนด์ของเราไปพร้อมกันเมื่อเรามีโอกาสตรงนี้ ซึ่งก็เป็นการสานต่อธุรกิจครอบครัวที่ทำกันมารุ่นต่อรุ่น เพียงแต่เราปรับเปลี่ยนให้มันเข้ากับยุค ในแง่คุณภาพร้านเรามีชื่อเสียงและลูกค้าให้การยอมรับในบริการอยู่แล้ว แต่ที่เพิ่มขึ้นคือเรื่องของการรับรู้และ vision ใหม่ๆ ซึ่งถูกพูดโดยคนรุ่นใหม่ เพื่อคนรุ่นใหม่ แต่ไม่ผิดวัฒนธรรมประเพณี ร้านมังกรเขียว เป็นธุรกิจโลงศพแบบจีนที่ครบวงจรของครอบครัว เราอยู่ใน Gen 5 ที่มาช่วยดูแล เรียกว่าเป็นเรี่ยวแรงหลักในการสร้างแบรนด์และการทำพีอาร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน คนรุ่นก่อนขายของแบบปากต่อปาก แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนเรามองมากกว่านั้น เพราะธุรกิจนี้เป็นธุรกิจทางวัฒนธรรม น่าจะต้องมีการเก็บบันทึกข้อมูล หรือบันทึกไว้ในรูปแบบเป็นวิดีโอแล้วมาตัดต่อ มีคำอธิบายใน 1 นาที สร้างช่องทางในการโปรโมต เฟสบุ้ก IG ยูทูป ทำเรื่องเหล่านี้ให้อยู่ในโลกออนไลน์ควบคู่กันไปด้วย สร้างอัตลักษณ์ให้แบรนด์ และทำพีอาร์อย่างไรให้ดึงดูดใจ มันจะต้องมีอะไรที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่บ้าง”


     นาตาเลีย บอกเพิ่มเติมว่า เราไม่ใช่ร้านบะหมี่ หรือติ่มซำ แต่เป็นร้านโลงศพที่มีแบรนด์ ทุกวันนี้เราทำพีอาร์ในหลายช่องทาง โดยเพิ่มช่องทางออนไลน์มากขึ้นบอกให้คนรู้ว่าสิ่งที่เราทำคืออะไร ในโซเซียลเรามีแฮทแท็กเฟสบุ้กที่ใช้และคนก็จะจำความเป็นเราได้ เช่น #หายใจไม่ออกบอกนาตาเลีย #น้ำดื่มมังกรเขียวใช้กินใช้กรวดในขวดเดียวกัน คอนเทนต์ต่างๆ ที่เราสร้าง สิ่งเหล่านี้บอกว่านาตาเลียเพลียแคมขายโลง
     “หลายคนมองว่าเราขายของเก่ง ในการแข่งขัน Drag Race ครั้งนี้ เราวางเส้นทางของตัวเองไว้ว่า ถ้าวันนี้เส้นทางธุรกิจโลงศพจะไปซื้อโฆษณาในช่องทีวีหรือออนไลน์มันอาจจะใช้ราคาสูงมาก แต่เมื่อเราเป็นที่รู้จักแล้ว เราจะใส่ตัวเองเข้าไปในรายการ แล้วสร้างพื้นที่ตัวเองเข้าไปให้คนอื่นได้รับรู้ ในมุมของความเป็น Drag มันคือคอนเทนต์ เหล่านี้มันถูกแฝงเรื่องการทำมาร์เกตติ้งของแบรนด์มังกรเขียวเข้าไปด้วย”

ถ้าวันหนึ่งต้องตาย... อยากออกแบบงานศพตัวเองแบบไหน
     “เราอยากได้โลงศพที่ติดสวารอฟสกี้ทั้งใบ ติดเพรชฟรุ้งฟริ้ง งานศพของเราไม่จำเป็นต้องเอะอะมานั่งกินกระเพาะปลา หรือข้าวหมูแดง มันควรจะมีเบนโตะเซต มาการอง เสริ์ฟกับน้ำชา ของชำร่วยก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น ยาดม ยาลม ยาหม่อง เราอาจจะใช้เป็นแฟลชไดร์ฟ เพื่อบันทึกเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อดีๆ เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเราว่า เราทำอะไรมาบ้าง คือตายทั้งทีจะมีภาพอะไรที่สวยงามไม่ได้เหรอ เมื่อเราไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว หากวันหนึ่งคุณคิดถึงเราก็แค่เอาแฟลชไดร์ฟนั้นมาเปิด เราอยากให้งานศพเราเป็นที่น่าจดจำ”


เป้าหมายธุรกิจหลังความตาย Funeral Planner
     “จริงๆ แล้วธุรกิจด้านนี้ค่อนข้างจะทำเงิน ในเมืองนอกมีการทำธุรกิจเกี่ยวกับงานศพโดยค่อยผูกติดกับวัด แต่เมืองไทยจะผูกติดกับวัด ฉะนั้น เราจะเอารูปแบบของเมืองนอกมาใช้ไม่ได้ แต่วันนี้เราปูทางทั้งหมดเพื่อตอบโจทย์ของอนาคต มันอาจจะเสียเวลากับการเริ่มต้น แต่มันน่าจะไปได้ดี เพราะเราปักธงเอาไว้แล้วว่า นอกจากร้านมังกรเขียว จะเป็นร้านโลงศพ มีบริการครบวงจร ในอนาคตจะถูกแตกไลน์มาเป็น funeral planner เจ้าแรกของประเทศไทย เราเป็นคนคิดอะไรใหญ่ๆ ฝันใหญ่ และเล่นใหญ่ในทุกๆ บทบาท"


ทุกบทบาทกับความมั่นใจและตั้งใจทำเกินร้อย
     “ถามว่าอะไรถึงทำให้เรามั่นใจได้ขนาดนี้ในการทำทุกสิ่ง นั่นก็เพราะเราเชื่อมั่นว่าความมั่นใจของเราไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้คนอื่น สิ่งที่เราทำเป็นเชิงบวก สิ่งที่เราคิดคือความมั่นใจแล้วว่าสิ่งที่จะทำมันก่อประโยชน์อะไรได้บ้าง เราสามารถทำอะไรได้บ้าง คนเราเกิดมาชีวิตหนึ่งควรมีประวัติศาสตร์ชีวิตที่เขียนได้ด้วยตัวเอง เราชอบชีวิตที่โลดโผน ถึงวันนี้ความเป็นพี่หนูหนึ่งไม่มีความพอดี มันขึ้นสุดและลงสุด แต่อย่างน้อยการขึ้นสุดลงสุดของเราสามารถสร้างความพอดีและสร้างประโยชน์ให้คนอื่น

อีกหนึ่งความฝัน... บทบาททางด้านการเมือง
     หลังจากที่มีโอกาสได้เป็นโค้ชเชียร์ลีดดิ้ง คนหูหนวก และมีโอกาสได้ทำงานเพื่อสังคมก็มีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อทำให้สังคมและประเทศก้าวไปข้างหน้า โดยมีโอกาสได้เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังท้องถิ่นไท ในฐานะคนรุ่นใหม่และคนที่มีจุดเด่นเรื่องไอเดีย-สร้างแรงบันดาลใจ และความหลากหลาย


     “ประเทศไทยอยู่บนความขัดแย้งมานานพอสมควร มันยิ่งตอกย้ำว่า ความขัดแย้งไม่ใช่ทางออกของประเทศ วันนี้ถ้าเราจะเดินไปข้างหน้า เราต้องอยู่เหนือปัญหา อยู่เหนือความขัดแย้ง เราต้องยืนหยัดอยู่ข้างประชาชน และโฟกัสในสิ่งที่เป็นทางออกของประเทศ อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้และถือเป็นทางออกของประเทศเช่นกัน นั่นก็คือ การพัฒนาการศึกษา ให้เข้าถึงทุกพื้นที่ ที่สามารถเข้าไปถึงได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และ มุ่งเน้นว่า การศึกษานั้นสร้างอะไรให้เกิดประโยชน์ มากกว่า การศึกษามีเพื่อการแข่งขัน”

     ธรรมดาโลกไม่จำ แต่เราเชื่อว่าสิ่งเล็กๆ ยิ่งใหญ่ที่ได้ทำเพื่อคนอื่น โลกจำแน่นอน “อัษฎายุทธ คุณวิเศษพงษ์” ทิ้งทายก่อนจบการสนทนาครั้งนี้ไว้ว่า...

     “ทุกสิ่งบนโลกใบนี้มีให้เราเลือกอยู่สองอย่าง คือ ลงมือทำ และ ไม่ลงมือทำ การที่เราลงมือทำอาจจะประสบความสำเร็จบ้างหือล้มเหลวบ้าง แต่ถ้าวันนี้มีตัวเลือกเพียงแค่ทำหรือไม่ทำ จงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และทำให้มันเกิดขึ้น มหัศจรรย์ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยปาฐิหารย์ แต่มหัศจรรย์เกิดขึ้นเพราะ... ทำหรือไม่ทำ”

 

"

ผู้จัดทำ

บทความที่คุณอาจสนใจ