“การเป็นผู้นำต้องเข้าใจบริบทสังคม พร้อมที่จะพัฒนาตนเองและสังคมไปด้วยกัน ในฐานะ ผู้ใหญ่บ้าน หน้าที่ความรับผิดชอบของผมคือ ดูแลทุกข์-สุขของประชาชน” ถ้อยความที่เป็นเหมือนคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่บ้านหนุ่ม ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลของ วศิณ หุ่นกลอย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ต้องบอกว่าชายหนุ่มคนนี้มีความโดดเด่นด้านความเป็นผู้นำมาตั้งแต่สมัยเรียน เป็นนักศึกษาที่เรียนดี กิจกรรมเด่น ทำงานเพื่อสังคมมาอย่างสม่ำเสมอ

วศิณ หุ่นกลอย ศิษย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะเรียนทางด้านการเมืองการปกครองมาโดยตลอด เพราะชีวิตส่วนหนึ่งเติบโตมากับครอบครัวที่เป็นข้าราชการ เรามองว่าการทำงานตรงนี้ แม้จะเป็นเพียงข้าราชการในตำแหน่งผู้นำท้องถิ่น อย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสร้างให้เป็นสังคมที่เข้มแข็ง สิ่งสำคัญคือ เมื่อตัดสินใจเป็นข้าราชการแล้ว ทุกข์-สุขของประชาชนต้องมาก่อนเสมอ เราในฐานะผู้ใหญ่บ้านต้องพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกบ้าน เป็นคนแรกที่เขาจะคิดถึงในยามเดือดร้อน ซึ่งทักษะความเป็นผู้นำ หรือแนวคิดในการพัฒนาสังคม ส่วนหนึ่งมาจากการปลูกฝังและวิชาความรู้ที่ได้เรียนมาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ขณะเดียวกันยังได้ต่อยอดความรู้เพิ่มเติมในระดับปริญญาโททางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ที่สถาบันการศึกษาแห่งนี้อีกด้วย

“รัฐศาสตร์ ม.รังสิต ที่นี่ไม่ได้สอนความรู้เพียงแค่ในห้องเรียน แต่ยังสอนให้เราเรียนรู้ในโลกกว้าง เปิดสิทธิเสรีภาพ ให้นักศึกษาได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ อยากจะพูด เสนออะไร ก็ให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกด้วยหลักการและเหตุผล โดยไม่ถูกปิดกั้นทางความคิด เป็นดินแดนแห่งสิทธิเสรีภาพที่นักศึกษาสามารถจะใช้ความรู้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ เรียกว่านอกจากที่นี่จะให้วิชาการแล้ว ขณะเดียวกันยังสอนวิชา(การให้) กับเราอีกด้วย เป็นสังคมแห่งการให้และการแบ่งบัน สิ่งเหล่านี้ยังอยู่ในตัวเรา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้นำในระดับที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และการตัดสินใจมาเป็นผู้ใหญ่บ้านของผม”

ด้วยความขยัน ทุ่มเทในการทำงาน และการสร้างสรรค์พัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง เป็นผู้ใหญ่บ้านที่พร้อมทำงาน 24 ชั่วโมง ทำให้วันนี้ผู้ใหญ่บ้านวศิน กลายเป็นขวัญใจของชาวบ้านในชุมชน ขณะเดียวกันเขาก็ยังประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจส่วนตัวด้วย เรียกว่า งานราษฎร์ งานหลวง โดดเด่นไม่แพ้กัน
“ในมุมของการเป็นผู้นำที่ดี ผู้ใหญ่บ้านหนุ่มคนนี้ บอกว่า ต้องเข้าใจบริบทของสังคม เข้าใจตัวตนของเราว่าการที่มาทำงานตรงนี้ เราต้องเป็นผู้นำเพื่ออะไร เป็นแล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง สิ่งที่ผู้นำต้องมีควบคู่กันคือ ความเสียสละ และความรู้ความสามารถที่จะมาพัฒนาชุมชนในพื้นที่ของเรา ทำงานตรงนี้เราไม่มีเวลาคิดเล็กคิดน้อย เพราะชาวบ้านและชุมชนต้องการผู้นำที่พาพวกเขาไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เงินเดือนเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งความจริงแล้วเราต้องแบกรับภาระ ทุกข์สุขของประชาชน และการบริหารงานต่างๆ นี่คือความท้าทายที่เราต้องพบเจอ” ผู้ใหญ่วศิน กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ การเป็นผู้นำที่ดีจำเป็นต้องใช้หลักการคิดและเหตุผล เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ รู้ซึ้ง เข้าถึงแนวทางการช่วยเหลือ การเป็นผู้นำเราไม่ใช่เป็นเพียงผู้นำ แต่ต้องเป็นคนที่จะคอยดูแลทุกข์สุขของชาวบ้านตลอดเวลา เราคือคนสุดท้ายที่จะต้องคอยช่วยเหลือประชาชน เราไม่ได้เป็นผู้นำเพียงแค่ชุด เราจะอยู่กันแบบครอบครัว ชุดสีกากีที่สวมใส่เป็นเพียงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน แต่หน้าที่ของเราคือ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ผมดูแลลูกบ้าน ใช้คำว่าครอบครัว ลูกบ้านเดือดร้อนอะไร เราจะสามารถพูดคุยกันได้เต็มที่ ซึ่งจากแนวคิดนี้ ผู้ใหญ่บ้านหนุ่มคนนี้ได้นำไปสู่การทำงานแบบ 24 ชั่วโมง โดยลูกบ้านสามารถแจ้งเรื่องราว ขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่ส่งข่าวสารผ่านระบบไลน์ออฟฟิเซียลของหมู่บ้าน ทำงานแบบกล้าได้ กล้าเสียเพื่อประโยชน์ของลูกบ้าน และเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้านำสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชุมชน เรียกว่า ต้องนำทั้งความรู้ เทคโนโลยี และความรู้ความสามารถมาพัฒนานาชุมชนต่อไป

ฝากถึงน้องๆ คนรุ่นใหม่ที่กำลังค้นหาตัวเอง ความรู้ ความสามารถ ความชอบ ไม่ได้ดูกันเพียงเเค่ไม่กี่วัน หาตัวตนให้เจอว่าเราอยากจะเป็นอะไร แล้วพยายามค้นคว้า เรียนรู้ทำสิ่งนั้นให้เต็มที่ เพราะทุกอาชีพล้วนมีคุณค่าในตัวเอง อยู่ที่ว่าเรานำความรู้เหล่านั้นมาพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นอย่างไร
"