๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
วันที่ประชาชนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความสูญเสียไว้ได้ เมื่อมีประกาศจากสำนักพระราชวังว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่ง เสด็จสวรรคตแล้วเมื่อเวลา ๑๕.๕๒ น. สิริพระชนมพรรษาปีที่ ๘๙ และทรงครองราชย์สมบัติได้ ๗๐ ปี
ในวันที่เราคนไทยต้องสูญเสียหลักชัย เหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุน เหมือนนาฬิกาจะหยุดเดิน วินาทีสิ้นเสียงประกาศจากสำนักพระราชวัง น้ำตาแห่งความอาลัยของคนไทยไหลหลั่งท่วมท้นแผ่นดิน และไม่สามารถจะหาถ้อยคำใดๆ มาอธิบายเป็นคำพูดได้

ณ วินาทีนั้นภาพหลายภาพฉายเข้ามาในหัวใจ ภาพที่พระองค์ทรงงานอย่างหนักมาตลอดระยะเวลาที่ทรงทรงครองราชย์สมบัติ ภาพที่พระองค์โบกพระหัตถ์ให้พสกนิกรชาวไทยที่รอชื่นชมพระบารมีในพระราชพิธีต่างๆ ภาพที่จำติดตาเมื่อครั้งพระองค์ประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อปวงประชา ภาพถือปากกา กางแผนที่ สะพายกล้อง บุกป่าฝ่าดง ลุยลำธาร ปีนขึ้นภูเขา เสด็จพระราชดำเนินไปในทุกที่ที่เป็นผืนแผ่นดินของพระองค์ ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยอย่างไม่เกรงต่อความเหน็ดเหนื่อย และอีกหลากหลายภาพที่ยังชัดเจนและจะอยู่ในหัวใจของคนไทยไปตลอดชีวิต

๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
ผ่านมาแล้ว ๓๖๕ วันแห่งความเศร้าโศกเสียใจที่ยาวนาน ไม่มีวันไหนที่หัวใจของคนไทยไม่คิดถึงพระองค์
ตลอดระยะเวลาที่ทางสำนักพระราชวังเปิดให้เข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระบรมมหาราชวัง พสกนิกรชาวไทยจากทั่วประเทศได้เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพจำนวนมากในทุกวัน บางคนนั่งรถมาไกลจากต่างจังหวัด บางคนมารอแต่เช้ามืดจนถึงดึกดื่นก็ยอม บางคนทำหน้าที่จิตอาสา นำอาหาร ขนม น้ำดื่มมาแจก หรือแม้แต่กระทั่งมาช่วยบริการรถส่ง หรือเก็บขยะ เก็บกวาดพื้นที่บริเวณรอบท้องสนามหลวง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เราในฐานะคนไทย พอที่จะสามารถทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพื่อพระองค์ท่านได้ แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าหากพระองค์ท่านมองลงมาจากฟากฟ้า พระองค์ท่านคงอยากให้พวกเราทุกคนมีกำลังใจในการที่จะใช้ชีวิต และสานต่อสิ่งที่ท่านทำเริ่มจากแนวทางการใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างยั่งยืน และให้พวกเรารักสามัคคีกัน
นอกจากนี้ หน่วยงาน สถาบันการศึกษา องค์กรต่างๆ ยังร่วมกันดำเนินกิจกรรมทำดีเพื่อพ่อ ถวายเป็นพระราชกุศล รวมทั้งมหาวิทยาลัยรังสิตได้มีการจัดงานกิจกรรมต่างๆ เพื่อรำลึกถึงพระองค์ และทุกครั้งที่เพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลงขึ้น ทุกคนก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้เลยสักครั้ง



นับจากนี้และตลอดไป “ลูกทุกคนขอสัญญา” จะเอาสองมือปาดน้ำตา และลุกขึ้นเดินต่อไป พวกเราจะร่วมกันทำความดี ทำหน้าที่ของเราเองให้ดีที่สุด จะเป็นดินดีที่สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวม จะช่วยกันดูแลแผ่นดินของพ่อหลวง และเดินตามคำสอนของพ่อต่อไป เพราะเราเชื่อว่าพ่อไม่ได้ไปไหน พ่อยังอยู่รอบตัวเรา ในทุกสิ่งที่พ่อทำ จากรอยทางที่พ่อสร้าง


นี่คือคำสัญญาจากคนไทยนับสิบล้าน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพ่อ และพวกเราจะสานต่อที่พ่อทำ
"