แชร์ประสบการณ์การเรียน “กายภาพบำบัด” แบบฉบับ น้ำชา-พิมพ์วลัญช์ กล่ำรัตน์

10 Nov 2020

   

            กายภาพบำบัดเป็นหนึ่งในกลุ่มคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่เรียกได้ว่าเรียนจบมีตลาดแรงงานรองรับ เนื่องจากประเทศของเรากำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และในปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาให้ความใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น คณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจในเวลานี้

 

 

            และวันนี้สาวสวยประจำคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬาคนนี้ น้ำชา-พิมพ์วลัญช์ กล่ำรัตน์ รุ่นพี่ปี 4 จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์การเรียนกายภาพบำบัดในรั้วมหาวิทยาลัยรังสิต

 

 

เหตุผลที่เลือกเรียนกายภาพบำบัด

            น้ำชาจบชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา จังหวัดนครปฐม จริงๆ อยากเรียนทางด้านสายวิทยาศาสตร์สุขภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และมีตัวเลือก 2 ทาง คือ พยาบาล กับ กายภาพ ในตอนนั้นพี่สาวแนะนำให้เรียนทางด้านกายภาพบำบัด น้ำชาจึงเริ่มศึกษาแนวทางที่จะไปต่อ ซึ่งมันดูหลากหลายและไปได้หลายด้านดีค่ะ ก็เลยตัดสินใจเลือกเรียนทางด้านกายภาพบำบัดค่ะ

 

 

กายภาพบำบัดให้อะไรมากกว่าที่คิด

            ในตอนแรกน้ำชาก็ไม่ได้รู้ลึกเรื่องทางด้านกายภาพบำบัดเลยค่ะ ว่าต้องเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง แต่พอได้เข้ามาเรียนรู้จริงๆ มันได้อะไรหลายๆ อย่างเยอะมาก ก็คือมีการเรียนอนาโตมี่ ที่เราจะได้ลงมือผ่าอาจารย์ใหญ่จริง ๆ แล้วก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ แต่ก่อนเราคิดว่ากายภาพจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเยอะๆ แต่พอมาเรียนก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโรคทุกระบบเลยค่ะ ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ระบบการทำงานของหัวใจ ปอด ฯลฯ ก็ได้เรียนรู้มากกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ

 

 

กายภาพบำบัดในชุมชน

            การลงชุมชนเป็นการประยุกต์ใช้อุปกรณ์จากที่มีอยู่แล้วจากบ้านคนไข้ ซึ่งมันไม่ได้มีอุปกรณ์ครบครันเหมือนที่เราเรียนในมหาวิทยาลัย ก็ทำให้เรารู้อีกด้านหนึ่งว่า กายภาพบำบัดสามารถรักษาได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ค่ะ แต่ใช้เครื่องมือที่มีอยู่ตามบ้านมาประยุกต์เป็นอุปกรณ์รักษาของเราได้

 

 

ไลฟสไตล์ของน้ำชา

            ก็เวลาเรียนเราก็เต็มที่กับการเรียน อาจจะมีเล่นบ้าง แต่ไม่กดดันตัวเองมากค่ะ

 

พูดถึง ม.รังสิต

            ม.รังสิต เป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างครบเครื่อง อีกหนึ่งเหตุผลที่น้ำชาเลือกที่จะมาเรียนที่คณะกายภาพบำบัดที่นี่คือ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียน สังคมต่างๆ ที่ค่อนข้างเป็นกันเองมาก  ไม่ใช่แค่เพียงในคณะเท่านั้น ต่างสาขา ต่างคณะเราก็สามารถทักทาย พูดคุยกันได้หมด สิ่งแวดล้อมต่างๆ ในมหา’ลัย ที่ทำให้เราอยู่แล้วไม่รู้สึกอึดอัด รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน ส่วนคณะของเราค่อนข้างอบอุ่นมาก อยู่กันแบบพี่น้อง อาจารย์ทุกๆ คน เป็นกันเองและไม่มีช่องว่างกับเรามาก ซึ่งท่านจะคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำตลอด

 

 

วางอนาคตหลังเรียนจบ

            อนาคตน้ำชาอยากเปิดคลินิกเป็นของตัวเอง แต่หลังเรียนจบอาจจะเริ่มทำงานที่โรงพยาบาลหรือที่อื่นไปก่อน เพื่อหาประสบการณ์ให้กับตัวเองก่อนค่ะ

"

ผู้จัดทำ

บทความที่คุณอาจสนใจ