1. Chariots of Fire (ฮิวก์ ฮัดสัน, 1981)
เรื่องราวเกี่ยวกับสองนักวิ่งอังกฤษที่ลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 1924 ซึ่งมีเนื้อหาว่าด้วยศรัทธา ความเชื่อมั่นและทำให้คนดูได้สัมผัสกับแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
2. Dead Poets Society (ปีเตอร์ เวียร์, 1989)
ภาพยนตร์ไม่เพียงทำให้ค้นพบความยิ่งใหญ่ของบทกวี หากแต่ยังนำเสนอให้เห็นความสำคัญของเสรีภาพทางปัญญาและการค้นพบจิตวิญญาณ และตัวตนของคนหนุ่มสาว
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
3. A Few Good Men (ร็อบ ไรเนอร์,1992)
แม้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในกองทัพสหรัฐฯ แต่โดยสาระสำคัญที่นำเสนอนั้นสามารถสะท้อนแนวคิดเรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคในทุกชาติทุกสังคม
สำหรับผู้ชื่นชมดาราและบทบาทการแสดงชั้นดี นี่คือการปะทะที่เข้มข้นของ ทอม ครูซ แจ็ค นิโคลสัน และเดมี่ มัวร์
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
4. Gandhi (ริชาร์ด แอ็ทเทนเบอเรอก์, 1982)
แบบอย่างของภาพยนตร์ที่ “ยิ่งใหญ่” ยิ่งใหญ่ทั้งบุคคลในเรื่อง (คานธี) ฉากเหตุการณ์ความยาว (188นาที) จำนวนตัวละครและสาระ (การต่อสู้ด้วยสันติวิธี)
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
5. Grave of Fireflies (ทาคาฮาตะ อิซาโอะ,1988)
การสะท้อน ความโหดร้ายของสงครามผ่านทางเรื่องราว ความทุกข์ยากของสองพี่น้องภาพยนตร์เรื่องนี้มีผลกระทบทั้งต่อความคิด อารมณ์และความรู้สึก และเป็นที่สุดของการสร้างอารมณ์สะเทือนใจ
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
6. Local Hero (บิลล์ ฟอร์ไซธ์, 1983)
แบบฉบับของการนำเสนอประเด็นการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยอารมณ์ขันอันเฉียบแหลม ภาพยนตร์ยังมีสาระที่สอดคล้องกับแนวคิดการมีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
7. One Flew Over the Cuckoo’s Nest (มิลอส ฟอร์แมน, 1975)
การนำเสนอให้เห็นถึงความสามารถของมนุษย์ที่จะทำให้เกิดการค้นพบคุณค่าของตนเองและความยิ่งใหญ่ของเสรีภาพ
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
8. The Truman Show (ปีเตอร์ เวียร์, 1998)
งานชิ้นเอกสำหรับสังคมยุค “เรียลิตี้โชว์” ซึ่งสะท้อนและวิพากษ์วิจารณ์ในแง่สังคมบทบาทของสื่อมวลชน และการได้รับความพึงพอใจของคนดู
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
9. Distant Voice, Still Lives (เทอร์เร็นซ์ เดวิส, 1988)
ภาพยนตร์ที่เป็นเสมือนสมุดบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวและครอบครัวของเทอร์เร็นซ์ เดวิส ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวลิเวอร์พูล สิ่งที่ทำให้งานของเดวิส เรื่องนี้แตกต่างจากภาพยนตร์เกี่ยวกับครอบครัวเรื่องอื่นก็คือวิธีการเล่าเรื่อง(เพื่อถ่ายทอดความทรงจำ) ผ่านการตัดต่อที่นักวิจารณ์บางคนบรรยายว่า “ดุเดือดและเหี้ยมเกรียม” รวมถึงการใช้เทคนิคทางภาพยนตร์ที่หลากหลาย เมื่อกล่าวอย่างถึงที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสามารถที่จะทำให้คนดูเกิดอาการจับต้นชนปลายไม่ถูกได้ไม่ยาก และการทำความเข้าใจสิ่งที่เดวิสต้องการนำเสนอในภาพยนตร์ ถือเป็นภาระที่ท้าทายความคิด สติปัญญา รวมทั้งจินตนาการของผู้ดูอย่างมาก
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
10. ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น (ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล,2520)
ปัญหาของคนชั้นล่างคือการถูกเอาเปรียบ และแม้เวลาผ่านมากว่า 2 ทศวรรษ แต่ชีวิตของทองพูน โคกโพยังคงสะท้อนให้เห็นว่าปัญหานี้ยังคงมีอยู่และไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
11. The Bear (ฌอง-ฌาคส์ อังโนด์, 1989)
นอกเหนือจากการมอบความบันเทิงสำหรับคนดูทุกวัยแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสัตว์โดยไม่เบียดเบียนกัน รวมทั้งส่งเสริมให้มีความเมตตาต่อสัตว์
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
12. Dances with Wolves (เควิน คอสท์เนอร์, 1990)
สิ่งสำคัญที่บรรจุอยู่ในภาพยนตร์ยาวกว่า 3 ชั่วโมง (185 นาที) เรื่องนี้ก็คืองานฝีมือชั้นเยี่ยม ความบันเทิงสำหรับคนดูกลุ่มใหญ่ และเนื้อหาเชิดชูคุณค่าของมนุษย์และธรรมชาติ
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
13. The Killing Fields (โรแลนด์ จอฟเฟ, 1984)
สงครามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชายุคเขมรแดงถูกนำเสนอด้วยสไตล์เหมือนจริง น่าจะทำให้คนดูทุกคนเกิดความรู้สึกเกลียดชัง สงครามอย่างที่สุด
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|
14. 15 ค่ำเดือน 11 (จิระ มะลิกุล, 2545)
ประเด็นความเชื่อและศรัทธาในเรื่องนี้มิได้จำกัดเฉพาะแค่ “บั้งไฟพญานาค” เท่านั้น แต่ยังน่าจะทำให้เห็นประเด็นครอบคลุมปรากฏการณ์อื่น ๆ ในสังคมไทยอีกด้วย
ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่
|